วันนี้ (วันที่ 17 ตุลาคม 2567) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม และนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช
เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา และ บั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 ริมแม่น้ำโขง จ.หนองคาย
โดยนายกฯอิงค์ ได้เปิดงาน “ประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก” ประจำปี 2567 (Naga Fireball Miracle of Faith 2024) และพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช
นายกฯ ได้สวมใส่ผ้าถุงสีเงิน ซึ่งมีลวดลายจากบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ และคาดผ้าสไบมัดหมี่ทอด้วยมือ สีส้มอิฐหรือสีน้ำตาลอิฐ ซึ่งเป็นสีอัตลักษณ์ของหนองคาย (เป็นสีตะกอนของแม่น้ำโขง) จ.หนองคาย ลายนาคใหญ่ (พญานาค 7 เศียร) ซึ่งมีความหมายถึงความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์
รวมถึงติดตามผลการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย และการดำเนินนโยบายด้านศิลปะวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ติดตามนโยบายในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ "ประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก” ประจำปี 2567 เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณี
รวมถึงการท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 25 ตุลาคม 2567 ในพื้นที่ 6 อำเภอริมโขง ได้แก่
โดยจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเป็นจำนวนมาก ช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มางานบุญบั้งไฟ ถือเป็นครั้งแรกของตัวดิฉัน ฉะนั้นขอเสียงตบมือดังๆ ให้งานนี้ ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของชาวอีสานและทีมงานซอฟต์พาวเวอร์ที่จะผลักดันเทศกาลต่างๆ และรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่จะสร้างโอกาสให้กับพี่น้องชาวอีสานได้มาก
เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สวยงาม และเป็นงานที่มีความเชื่อของคนอีสานอยู่มาก ตั้งแต่นานมากแล้ว รู้สึกมีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ และสามารถที่จะใส่ความคิดสร้างสรรค์หรือเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไป เพื่อที่ทำให้คนทั่วโลกได้เห็น และสัมผัสสิ่งที่ชาวอีสานได้ทำกันมาต่อเนื่อง
อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดัน ซึ่งในกระบวนการต่างๆ ได้เริ่มทำแล้วฉะนั้นการที่มีเทศกาลดีๆ แบบนี้ที่อีสานเราจะผลักดัน เพราะไม่ใช่แค่เทศกาลนี้ยังมีเทศกาลอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแห่เทียนพรรษา ไหลเรือไฟและอีกหลายเทศกาลที่มีเสน่ห์มาก
นายกฯ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งที่เราต้องสร้างเสน่ห์ มีเสน่ห์อะไรให้คนเข้ามาหลงใหล หรือเข้ามาหาเรา และนี่คือหนึ่งในเทศกาลที่จะทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่หมุนเวียน ถ้าดูชาวต่างชาติทั้งโลกรู้จักเทศกาลนี้ของอีสาน คนอีสานต้องรวยแน่ๆ ใช่หรือเปล่า
ฉะนั้นอยากจะบอกว่าวันนี้มาให้กำลังใจทุกท่าน เดี๋ยวเราจะพัฒนาในสิ่งที่ชาวอีสานมีอยู่แล้ว ให้เป็นสมบัติของชาวอีสานให้ดียิ่งขึ้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และต้องสวัสดีทุกท่านดีใจมากๆ ที่ได้มาจ.หนองคายในวันนี้
“บั้งไฟพญานาค” เป็นปรากฏการณ์ของการเกิดลูกไฟสีแดงอมชมพูพวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงจังหวัดหนองคาย จะเริ่มปรากฏจากเหนือผิวน้ำตั้งแต่ระดับ – 30 เมตร แล้วจะพุ่งขึ้นสูงประมาณระดับ 50 – 150 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5 -10 วินาที
แล้วดับหายวับไปในอากาศและไม่มีลักษณะโค้งตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ โดยลูกไฟไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง ขนาดของลูกไฟมีขนาดตั้งแต่เท่าหัวแม่มือ กระทั่งขนาดเท่าฟองไข่ไก่ จะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงประมาณ 23.00 น.
ตามพุทธประวัติกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ พระองค์ได้เสด็จเผยแพร่ศาสนาไปทั่วชมพูทวีป พญานาคีบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่ง จึงจำแลงกายเป็นบุรุษขอบวชเป็นสาวก ค่ำคืนหนึ่งพญานาคีเผลอหลับใหลคืนร่างเดิม พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องจึงขอให้ลาสิกขา
เนื่องจากเป็นเดรัจฉานจะบวชเป็นภิกษุมิได้ พญานาคียอมตามคำขอแต่ขอว่ากุลบุตรทั้งปวงที่จะบวชให้เรียกขานว่า “นาค” เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของพญานาคก่อนค่อยเข้าโบสถ์ จากนั้นเป็นต้นมาจึงเรียกขานกุลบุตรทั้งหลายที่จะบวชว่า “พ่อนาค”
ต่อมาเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์ เหล่าบรรดาพญานาคี นาคเทวี พร้อมทั้งเหล่าบริวารจัดทำเครื่องบูชา และพ่นบั้งไฟถวาย ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค”
“บั้งไฟพญานาค” จึงเป็นปรากฏการณ์น่าพิศวงที่รอการพิสูจน์จากผู้คนทั่งโลก ซึ่งจะมีปรากฏการณ์ในช่วงวันออกพรรษาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี และจะมี “บั้งไฟพญานาค” ปรากฏในวันนี้
ผู้สนใจสามารถเดินทางไปชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ได้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดหนองคาย เช่น อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอเมือง อำเภอโพนพิสัย อำเภอรัตนวาปี และจังหวัดบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอเมือง และอำเภอบึงโขงหลง ฯลฯ
ไฮไลต์การจัดงานออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคของเทศบาลเมืองหนองคาย อ.เมือง ระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคม 2567