นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ว่า จะมีการดำเนินการใน 4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการ “เหนือพร้อมเที่ยว” โดยจะเอาอินฟลูเอนเซอร์ ไปลงพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว
โครงการ“แอ๋วเหนือคนละครึ่ง” ซึ่งเบื้องต้นจะใช้งบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการสนับสนุนงบท่องเที่ยววงเงิน 400 บาทจากค่าใช้จ่าย 800 บาท จำนวน 1 หมื่นสิทธิ์
สำหรับการใช้จ่ายด้านแพ็คเกจท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เพื่อกระตุ้นให้คนในภาคเหนือเดินทางเที่ยวด้วยกันเอง อย่างเชียงใหม่ เชียงราย ที่จะเริ่มในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ผมยังมีการหารือกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อขยายสิทธิและเพิ่มวงเงินสำหรับโครงการแอ๋วเหนือคนละครึ่ง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นตลาดได้เพิ่มมากขึ้น
รวมถึงการผลักดันโครงการ “ไทยแลนด์ วินเตอร์ เฟสติวัล” สร้างกิจกรรมและอีเว้นท์ขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ อาทิ ลอยกระทง เทศกาลยี่เป็ง เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังผลักดันโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ก็จะหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อพิจารณางบประมาณใช้ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งยืนยันว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ประโยชน์ทั้งระบบ
โดยใน 5 เฟสแรกของเรสเที่ยวด้วยกันที่ผ่านมา เราเที่ยวด้วยกันก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 58,621 ล้านบาท จากการใช้งบประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งในรอบนี้คาดว่าจะดำเนินการในขนาดไม่แตกต่างจากเดิม
รวมไปถึงโดยส่วนตัวผมมองว่าการสนับสนุนก็อยากเสนอให้รัฐบาลสนับสนุน 50% และประชาชน 50% หรือคนละครึ่ง จากเดิมเป็นรัฐบาลอุดหนุน 40% ประชาชนออกเอง 60% ซึ่งประเมินว่าเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะได้มากกว่าเฟสแรก 5-10%
เนื่องจากจะเปลี่ยนมาจองผ่านแพลตฟอร์มตัวแทนจองออนไลน์ (โอทีเอ) ที่เป็นของไทยเอง เพื่อให้เม็ดเงินไม่ไหลออกไปสู่ต่างประเทศ
“โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบที่ปิดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นในเฟสเดิมทั้งหมด อาทิ การโกงการเข้าพักจริง จำนวนห้องพักที่ถูกใช้มากเกินกว่าจำนวนที่มีจริง จากนั้นจะพิจารณางบประมาณและรูปแบบสัดส่วนการอุดหนุนของรัฐบาลที่ใช้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ได้ในช่วงต้นปี 2568 นี้”
ทั้งนี้โครงการต่างๆเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ลดการตัดสินใจในการเดินทางมาเที่ยวต่างประเทศของคนไทย
นอกจากนี้รัฐบาลก็เตรียมจะจัดเก็บทราเวลลิ่ง แท็กซ์ หรือภาษีท่องเที่ยว (ค่าเหยียบแผ่นดิน)สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ 300 บาท โดยจะเสนอครม.ไตรมาสแรกปีหน้า คาดว่าจะมีผลในอีก 6 เดือนหลังเข้าครม.ซึ่งการต้องเข้าครม.อีกครั้ง
เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ และกำลังพิจารณาว่าจะจัดเก็บทั้งการเดินทางผ่านทางบก น้ำ อากาศ ไปพร้อมกัน หรือจะจัดเก็บในการเดินทางทางอากาศก่อน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,038 วันที่ 24 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2567