นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมท่าอากาศยาน ได้เข้ารับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะของท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ซึ่งถือเป็นท่าอากาศยานแห่งที่ 3 ของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และแห่งที่ 11 ของไทย ที่ได้รับใบรับรองสนามบิน
กระบวนการออกใบรับรองนี้เป็นการดำเนินการตามมาตรา 45 แห่งพระราชกำหนด แก้ไขพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดให้สนามบินสาธารณะที่ดำเนินการโดยส่วนราชการสามารถเปิดให้บริการต่อไปได้ จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจาก กพท. ว่า มีการดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐาน
นางมนพร กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ ทย. เร่งดำเนินการตามกระบวนการขอใบรับรองฯ ของท่าอากาศยานกระบี่และนครศรีธรรมราช ที่ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการ Phase 5 เพื่อให้ได้ใบรับรองฯ ภายในปี 2568 เนื่องจากใบรับรองดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า การดำเนินงานของท่าอากาศยานมีมาตรฐานทั้งด้านกายภาพ คู่มือช่วยอำนวยความสะดวก คู่มือการดำเนินงาน คู่มือระบบจัดการด้านนิรภัยและแผนฉุกเฉิน
อันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารและผู้ประกอบการบินในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้บริการท่าอากาศยาน รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสายการบินในการเปิดเส้นทางบินมายังท่าอากาศยานในสังกัด ทย. และส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งทางอากาศในระดับประเทศและระดับสากล
นายดนัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการขอใบรับรองฯ มีทั้งสิ้น 5 Phase ประกอบด้วย Phase 1 ขั้นเตรียมการ Phase 2 ขั้นยื่นคำขออย่างเป็นทางการ Phase 3 ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร Phase 4 ขั้นตอนการตรวจสอบปฏิบัติการ และ Phase 5 ขั้นตอนการออกใบรับรองฯ
ปัจจุบัน ทย. มีท่าอากาศยานในสังกัดที่ได้ใบรับรองฯ แล้ว 3 แห่ง คือ ท่าอากาศยานเบตง บุรีรัมย์ และสุราษฎร์ธานี สำหรับท่าอากาศยานที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ Phase 3 ได้แก่ ท่าอากาศยานลำปาง น่านนคร ร้อยเอ็ด แม่ฮ่องสอน นครพนม เลย ระนอง ชุมพร นราธิวาส แพร่ ปาย และเพชรบูรณ์
Phase 4 ได้แก่ ท่าอากาศยานหัวหิน อุบลราชธานี ตรัง สกลนคร แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น พิษณุโลก และอุดรธานี และ Phase 5 ได้แก่ ท่าอากาศยานกระบี่ และนครศรีธรรมราช โดยคาดว่าท่าอากาศยานที่จะได้รับใบรับรองฯ แห่งถัดไป คือ ท่าอากาศยานกระบี่
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 ทย. มีเป้าหมายให้ท่าอากาศยานตรัง สกลนคร อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน หัวหิน และพิษณุโลก ดำเนินการตาม Phase 4 แล้วเสร็จ และเข้าสู่ Phase 5 โดยจะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการให้ท่าอากาศยานที่อยู่ใน Phase 3 และ 4 จัดทำแผนแก้ไขตามความเห็นของ กพท. และดำเนินการใน Phase ต่อไปโดยเร็ว เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ กพท. ว่าด้วยมาตรฐานสนามบิน
รวมถึงกฎหมายและมาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสอดคล้องตามมาตรฐานและข้อแนะนำขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO)