LH Mall ทุ่ม 1.2 หมื่นล้าน ผุด 3 โรงแรมใหม่ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์

ปัจจุบันโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เป็นแบรนด์โรงแรมที่พัฒนาและบริหารโดย แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล (LH Mall & Hotel) หรือ  LHMH  ธุรกิจโรงแรมในเครือ แลนด์แอนด์ เฮ้าส์  โดยเปิดตัวโรงแรมแห่งแรก แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ในปี 2551 ล่าสุดเตรียมจะเปิดตัวโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี มูลค่าการลงทุนกว่า 4,800 ล้านบาท วันที่  1 เมษายน 2568 นี้ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้จะเป็นแบรนด์ระดับ Prestige แห่งแรกของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์

ส่งผลให้ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ มีเครือโรงแรมขยายตัวเป็น 8 แห่ง รวมจำนวนห้องพักกว่า 3,000 ห้อง ในกว่า  17 ปีที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำธุรกิจโรงแรมแบรนด์ไทยระดับแนวหน้า

โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์

ทั้งล่าสุดแอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการลงทุน 3 โรงแรมระดับลักชัวรี ในโลเคชั่นทำเลทองใน กรุงเทพฯ และพัทยา ที่จะเตรียมเปิดให้บริการในอีก 3 ปีข้างหน้า

ตั้งเป้าดันรายได้โรงแรมปีนี้ เติบโต 15 %

“สุวรรณา พุทธประสาท” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด กล่าวว่า กว่า  17 ปี แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ได้ปักหมุดหมายการพัฒนาบริการสู่สากล ทำให้เราก่อสร้างโครงการโรงแรมเพิ่มเข้ามาในพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง เน้นเพิ่มโรงแรมใน “กรุงเทพ” ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวรู้จัก และการพัฒนาโครงการโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง “พัทยา” และเราจะเน้นการพัฒนาโรงแรมที่หรูหรามากขึ้นเรื่อยๆ

สุวรรณา พุทธประสาท

ล่าสุดในปีนี้ได้เปิดตัวโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ซึ่งเป็นเพรสทีจ คอลเล็กชันแห่งแรกของแอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล เป็นที่พักระดับเวิลด์คลาส มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหญ่และว๊าวมาก ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกเซ็กเมนต์

สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จมาก โดยใน 7 โรงแรม มีรายได้รวมกว่า 5,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 % จากปี 2566 ซึ่งในปี 2566 รายได้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เติบโตถึง 64 % จากปี 2562

โดยโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุด 3 อันดับแรกในปีที่ผ่านมา ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ตามมาด้วย โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินัล 21

ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 15 % จากปีที่แล้ว เนื่องจากการเปิดให้บริการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี วันที่ 1 เม.ย.นี้

ทุ่ม 1.2 หมื่นล้าน ผุด 3 โรงแรมใหม่แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์

นายกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH) เผยถึงแผนขยายธุรกิจโรงแรมของบริษัทว่า ในปีนี้ LHMH เดินหน้าลงทุน 3 โรงแรมใหม่ เพิ่มห้องพักอีก 1,354 ห้อง พร้อมยกระดับมาตรฐานโรงแรมไทยสู่ระดับเวิลด์คลาส โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 3 แห่ง ในพื้นที่ทำเลทอง ในกรุงเทพมหานคร และ พัทยา ได้แก่

กิตติ วรบรรพต

1.โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (สูง 45 ชั้น / 509 ห้อง) ลงทุน 4,500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินเดิมของศูนย์การค้า The Peninsula Bangkok บนพื้นที่เช่าจาก โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ระยะเวลา 30 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2568 เป็นโรงแรมระดับลักชัวรี เน้นการตกแต่งสไตล์ไทยโมเดิร์น  พร้อมวิวสมาคมราชกรีฑาสโมสร อัดแน่นด้วย Facilities อย่างสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้ายาว 50 เมตร, สปา, ร้านอาหารหลากหลาย, ห้องประชุมสำหรับงานจัดเลี้ยงระดับพรีเมียม การออกแบบห้องพักเลือกกลิ่นอายไทยสบาย ได้ความสงบและหรูหราในโทนสีขาว-ทอง

 

โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้เมื่อรวมกับแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระดับ upper up scale จะทำให้เรามีจำนวนห้องพักรวมกว่า 1 พันกว่าห้อง จัดว่าเป็นผู้ประกอบการโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมาที่สุดในย่านราชประสงค์ โดยขายห้องพักอยู่ที่ 5,000 บาท ถึงหมื่นบาท

2.โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ วอยาจ พัทยา (สูง 33 ชั้น / 494 ห้อง) ลงทุน 4,500 ล้านบาท บนพื้นที่เช่ากว่า 22 ไร่ ใหญ่กว่าและติดกันกับ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา กว่า 2 เท่า บนพื้นที่ 22ไร่ เน้นสวนน้ำดีไซน์ทะลุมิติสุดอลังการ ขนาดห้องพักเริ่มต้นที่ 50 ตรม. ทุกห้องเห็นวิวทะเล  สวนสวยขนาดใหญ่ภายใต้ Concept “Time Traveler” เดินทางผ่านมิติของเวลาโลกตะวันตกสู่จุดศูนย์รวมยุโรป ณ จุดเดียวกับวิว Skywalk เหนือสวนน้ำ เครื่องเล่นหลากหลาย

รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่มาสร้างความบันเทิงแก่ผู้เข้าพัก ห้องประชุมที่รองรับลูกค้าได้ทุกฟังก์ชัน และร้านอาหารในโรงแรมหลากหลายรูปแบบคาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2569 เป็นการต่อยอด 2 โรงแรมในพัทยา ซึ่งได้รับการตอบรับล้นหลาม ปีล่าสุดมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง  92%  สูงกว่าโรงแรมในกรุงเทพ ที่อยู่ที่ราว 85 %

โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ วอยาจ พัทยา

3.โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ไชน่าทาวน์ กรุงเทพฯ (สูง 11 ชั้น / 351 ห้อง) ลงทุน 3,600 ล้านบาท บนที่ดินเช่าจาก สำนักงานทรัพย์สินฯ เกือบ 4 ไร่  ย่านเยาวราช หรือพื้นที่เฉลิมบุรีเดิม การสร้างโรงแรมแห่งนี้ออกแบบโดย Palmer & Turner บริษัทผู้ออกแบบ The Bund, Shanghai คาดว่าจะเปิดให้บริการ ไตรมาส 2 ปี 2571

เราตั้งใจว่าการตัดสินใจประมูลพื้นที่นี้มา เพื่อพัฒนาโรงแรมให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ เป็นโรงแรม 5 ดาวแห่งแรกกลางเยาวราช เป็นจุดเช็คอินใหม่ จอดรถ ร้านอาหาร ร้านค้าพรีเมียม 20 แบรนด์  การตกแต่งมีความคลาสสิก มีบรรยากาศความเป็นไชน่าทาวน์ พื้นที่สีเขียวรอบตัวตึก สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปได้ถึง 4 ถนนหลัก

 

โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ไชน่าทาวน์ กรุงเทพฯ  

จัดทัพ 3 แบรนด์โรงแรม นำเสนอประสบการณ์เข้าพัก

“เมสินี แก้วราตรี” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร LHMH กล่าวว่า แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ได้จัดกลุ่มการบริหารจัดการโรงแรมออกเป็น 3 เทียร์ (แบรนด์) เพื่อขยายธุรกิจในทุกเซกเมนต์ และตอบสนองประสบการณ์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ได้แก่ 1. Timeless Collection 2. Prestige Collection และ 3. Limited Collection

เมสินี แก้วราตรี

โดย “Timeless Collection” (โรงแรมระดับ Upper Upscale) ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพลินจิต, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินัล 21 , โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์

ส่วน “Prestige Collection” (โรงแรมลักซัวรี) ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพ

ขณะที่ “Limited Collection” (เน้นดีไซน์ที่แตกต่าง)ได้แก่ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ วอยาจพัทยา และ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ไชน่า ทาวน์ กรุงเทพ

โดยได้เปิดเทียร์ใหม่ในปีนี้ คือ “Prestige Collection” ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เป็นแห่งแรก เราพัฒนาแนวคิด มาจากนักเดินทางปัจจุบันต้องการประสบการณ์มากขึ้น ไม่ใช่มองแค่การเข้าพัก เราพัฒนาเซอร์วิส การตกแต่งพรีเมี่ยม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสกายพูล 50 เมตร ยาวที่สุดสำหรับโรงแรมในกรุงเทพ ในฟิสเนส ก็จะเป็นอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนยิม ทั้งหมด เป็นต้น

เบื้องหลังการทำแบรนด์ เราใช้เวลาพัฒนา 17 ปี นำแนวคิดบริการแบบไทย และยกระดับให้พรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น  ทุกครั้งในการเปิดโปรเจ็กแต่ละครั้ง ลูกค้าก็จะเฝ้ารอว่าเราจะนำเสนออะไรในตลาดโรงแรม ด้วยความที่เราเป็นโรงแรมคนไทย

เราฟังเสียงผู้บริโภค เอาดาต้าเบส แบบเรียลไทม์ ที่ไม่ว่าลูกค้าจะรีวิวอะไร มาพัฒนาโรงแรมให้ตอบโจทย์ความต้องการ และเพนท์พอยต์ลูกค้าได้มากที่สุด ทำให้ลูกค้าเชื่อใจ นำเสนอต่อไป และแชร์ต่อๆกันไปจนได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง

แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เป็นโรงแรมแรกภายใต้แนวคิด ‘Tier Prestige Collection’ ที่ยกระดับแบรนด์สู่ตลาดโรงแรมหรูระดับเวิลด์คลาส” ซึ่งการพัฒนา Tier Prestige Collection เกิดจากการศึกษาตลาดเชิงลึก และความต้องการของนักเดินทางระดับพรีเมียม ซึ่งพบว่า นักท่องเที่ยวในปัจจุบันและอนาคต ต้องการประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ ภายใต้แบรนด์ไทยที่มีมาตรฐานเทียบเท่าโรงแรมระดับโลก 

ยิ่งไปกว่านี้ ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้มุ่งมั่นในการพัฒนา ศักยภาพของพนักงาน ระบบการจัดการโรงแรม มาตรฐานบริการที่นำเสนอ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารและยกระดับมาตรฐานบริการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส กลยุทธ์การตลาดและขยายฐานลูกค้าของเครือจึงมุ่งเน้น เจาะกลุ่มนักเดินทางระดับพรีเมียม, นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

พร้อมขยายตลาด การประชุมสัมมนา อีเวนต์ และจัดเลี้ยง ใช้ กลยุทธ์ Customer Centric พัฒนาบริการโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ใช้ Loyalty Program เพื่อ รักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ควบคู่ไปกับ สร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขยายการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์และกิจกรรมพิเศษ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าจดจำและกลับมาใช้บริการซ้ำ

LHMH ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจและเสริมแกร่งแบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโรงแรมหรูของไทยและระดับโลก

 

เปิดโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี วันที่  1 เม.ย.นี้

“สายฝน พลพรพิสิฐ” ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ได้กล่าวถึง จุดเด่นของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ว่า “โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เป็นโครงการ Mixed-Use ที่มีทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว และพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่รองรับทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ

สายฝน พลพรพิสิฐ

โรงแรมของเรามีจุดเด่นหลายประการ เช่น ทำเลใจกลางเมือง ใกล้สวนลุมพินี เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจและศูนย์การค้าใหญ่

โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี

นอกจากนี้ โรงแรมยังมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับด้วย Sky Pool, Gravity Fit Club, Let’s Relax Spa & Onsen, Tiny Tree Kids Club และห้องอาหารนานาชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้เข้าพัก

โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี มุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ นักธุรกิจ และนักเดินทางที่มองหาที่พักที่หรูหรา มีห้องประชุมจัดเลี้ยง สัมมนา บริการครบวงจร และอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก โดยคาดการณ์ว่าสัดส่วนลูกค้าจะเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 70% และลูกค้าคนไทย 30%

โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี (Grande Centre Point Lumphini) เป็นส่วนหนึ่งของ "Prestige Tier" ภายใต้แบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์เหนือระดับและการบริการที่ประณีต มอบประสบการณ์เข้าพักที่หรูหราด้วยห้องพักและห้องสวีทสุดหรู 512 ห้อง ที่โดดเด่นด้วยความเงียบสงบ กว้างขวาง หรูหรา พร้อมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดรับแสงธรรมชาติและมอบวิวอันงดงามของสวนลุมพินี สวนเบญจกิติ และแม่น้ำเจ้าพระยา

ทุกห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำสมัย ยิ่งไปกว่านั้นยังมอบความเป็นอยู่ที่ดีตลอดการเข้าพัก ด้วยประสบการณ์รับประทานอาหารระดับไฮเอนด์ ในห้องอาหารนานาชาติ ห้องอาหารรูฟทอป ห้องอาหารจีน และคาเฟ่ พร้อมการผ่อนคลายและดูแลสุขภาพในระดับเวิลด์คลาส

รวมถึงห้องประชุมจัดเลี้ยงและสัมมนาขนาดใหญ่สุดล้ำสมัย โรงแรมตั้งอยู่ใกล้ MRT ลุมพินี (ทางออก 1) เพียง 150 เมตร และสามารถเดินทางสะดวกไปยังโซนธุรกิจอย่างสีลม สาทร อโศก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น สวนลุมพินี สวนเบญจกิติ และเยาวราช พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน 2568