เริ่มแล้ว ศาลนัดไต่สวนฝ่ายโจทย์ คดีชดเชยพิษพาราควอต

04 ต.ค. 2565 | 05:04 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2565 | 19:57 น.

จับตา ศาลนัดสืบพยาน เกษตรกร ฝ่ายโจทย์ ที่ได้รับผลกระทบ ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า ชดเชยพิษพาราควอต 4 วัน ตั้งวันนี้ ถึง 7 ต.ค. 65 ค่าเสียหาย 11 ล้าน ณ ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู เริ่มแล้ว

เริ่มแล้ว ศาลนัดไต่สวนฝ่ายโจทย์ คดีชดเชยพิษพาราควอต

 

วันที่ 4 ตุลาคม 2565 นายปฎิวัติ เฉลิมชาติ ประสานงานเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสาน และคณะกรรมการนโยบาย  สภาองค์กรของผู้บริโภค ( สอบ.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ จนถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู นัดสืบพยาน กรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า รวมกลุ่มฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีที่ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ศาลไกล่เกลี่ยแล้ว คดีไม่สามารถตกลงกันได้ จึงดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แต่เห็นควรให้ส่งคดีเข้าศูนย์ใกล่เกลี่ยประจำศาลก่อนวันนัดสืบพยาน โดยกำชับให้คู่ความแต่ละฝ่ายที่จะมาไกล่เกลี่ยเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ ให้คู่ความไปกำหนดวันนัดที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า คดีมีประเด็นข้อพิพาท ดังนี้

 

1. โจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มได้รับความเสียหายเป็นโรคเนื้อเน่าจากการใช้สินค้าก็อกโซนของจำเลย โดยการใช้หรือการเก็บรักษาสินค้านั้นเป็นไปตามปกติธรรมดาหรือไม่ เพียงใด

 

2. จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มในความเสียหายที่เกิดจากสินค้าก๊อกโซนของจำเลยหรือไม่

 

อนึ่ง ตามคำให้การข้อ 6 ที่จำเลยให้การว่า คำฟ้องของโจทก็ไม่กำหนดขอบเขตสมาชิกกลุ่มให้ชัดเจนทำให้ฟ้องของกลุ่มบุคคลได้รับความเสียหายก่อนวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ขาดความอายุความ 3 ปี นั้น เนื่องจากศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าฟ้องโจทก์ทั้งสองได้แสดงถึงลักษณะเฉพาะของกลุ่มบุคคลชัดเจนแล้ว จึงอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทตามคำให้การข้อ 6

 

ประเด็นข้อพิพาทข้อที่ 1 โจทก์ทั้งสองต้องพิสูจน์ว่าตนเองและสมาชิกกลุ่มได้รับความเสียหายจากสินค้าก็อกโซนของจำเลย โดยการใช้หรือการเก็บรักษาสินค้าเป็นไปตามปกติธรรมดาตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.2551  มาตรา 6 โจทก์ทั้งสองจึงมีภาระการพิสูจน์

 

ส่วนประเด็นข้อพิพาทข้อที่ 2 จำเลยซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ประกอบการต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มหากสินค้าก็อกโซนของจำเลยเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ. ศ.2551 มาตรา 5 เว้นแต่สินค้านั้นมิได้เป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยตามมาตรา 7 (1)

 

ทั้งนี้ การผลิตและส่วนผสมของสินค้าก็อกโซนนั้นอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของจำเลย จำเลยจึงมีภาระการพิสูจน์ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551  มาตรา 29 ให้โจทก์ทั้งสอง นำพยานเข้าสืบก่อน เสร็จแล้วให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ

 

โจทก์ทั้งสองติดใจสืบพยาน 12 ปาก รายละเอียดตามคำแถลงฉบับลงวันที่วันนี้ ขอวันนัด 4 นัด เนื่องจากพยานแต่ละปากมีรายละเอียดการเบิกความเป็นจำนวนมาก และมีผู้เชี่ยวชาญหลายปาก ต้องใช้เวลานานในการสีบพยาน

 

จำเลยติดใจสืบพยาน 15  ปาก รายละเอียดตามคำแถลงฉบับลงวันที่วันนี้ขอวันนัด 6 นัด เนื่องจากพยานส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการเบิกความเกี่ยวกับความรู้เห็นเฉพาะด้าน ต้องใช้เวลานานในการสืบพยานอนุญาตให้กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก็ทั้งสอง 4 นัด สืบพยานจำเลย 6 นัด ให้คู่ความไปกำหนดวันนัดที่ศูนย์นัดความคู่ความยื่นคำร้องขอใช้บันทึกถ้อยคำแทนการสืบพยาน ตามคำร้องฉบับลงวันที่วันนี้ สำเนาให้อีกฝ่าย ต่างฝ่ายต่างไม่ค้าน

 

ศาลอนุญาต โดยให้ส่งบันทึกถ้อยคำต่อศาล และคู่ความอีกฝ่ายก่อนสืบพยานปากนั้น ๆ 7 วัน กำชับให้โจทก์ทั้งสองและจำเลยเตรียมพยานมาพร้อมสีบในวันนัด ศาลจะพิจารณาเลื่อนคดีโดยเคร่งครัดเพราะเหตุไม่มีพยานมาพร้อมสืบ และปฏิบัติตามรายงานการเตรียมคดีแนบท้ายคดีรายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้อย่างเคร่งครัดอนึ่ง ทนายจำเลยขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานเอกสารซึ่งอยู่ในความครอบครองของโจทก์ทั้งสองและสมาชิก ศาลมีคำสั่งเรียกแล้ว โดยเห็นว่าทนายโจทก์ทั้งสองมาศาล จึงให้ทนายโจทก์ทั้งสองรับหมายไปส่งให้แกโจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่ม/อ่านแล้ว

 

ต้องติดตาม ในช่วง 4 วันดังกล่าวนี้การพิจารณาคดีของศาล จะเป็นอย่างไร