นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า พบว่า สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในภาพรวมได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมูเนื้อแดงเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 167-185 บาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว 5-19% โดยห้างแม็คโครจำหน่ายอยู่ที่กก.ละ 167 บาท ราคาไก่น่องติดสะโพกอยู่ที่ กก.ละ 75- 90 บาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว 5-8% โดยห้างแม็คโครจำหน่ายอยู่ที่ กก.ละ 73 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาอยู่ที่ฟองละ 3.8- 4.2 บาท โดยห้างแม็คโครจำหน่ายอยู่ที่ฟองละ 3.8 บาท
สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป จากการติดตามพบว่ามีปริมาณสินค้าเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วม ห้างค้าปลีกค้าส่งและห้างท้องถิ่น ได้มีการเพิ่มสต๊อกสินค้าไว้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้รับรายงานห้างยังสามารถบริหารจัดการสต๊อกและกระจายสินค้าไปยังสาขาทั่วประเทศได้
ส่วนสินค้าผัก ในช่วงที่ผ่านมา ราคาอาจปรับขึ้นไปบ้างบางรายการ จากสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้แหล่งเพาะปลูกได้รับผลกระทบ แต่จากการติดตามสถานการณ์พบว่า หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว เช่น จ.กาญจนบุรี ราชบุรี ปทุมธานี การขนส่งคลี่คลายลง เกษตรกรสามารถนำผลผลิตออกมาจำหน่าย และหลายพื้นที่มีการเตรียมแปลงเพาะปลูกผักใหม่ในหลายพื้นที่แล้ว จึงคาดว่าอีกไม่ช้าสถานการณ์ราคาผักจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ซึ่งวันนี้ผักบางชนิดก็เริ่มมีราคาปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน เช่น ผักชี จาก 130-180 บาท/กก. เหลือ 100–110 บาท/กก. ถั่วฝักยาว จาก 65-70 บาท/กก. เหลือ 55-60 บาท/กก. พริกจินดา จาก 100–120 บาท/กก. เหลือ 80–100 บาท/กก. ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าสถานการณ์ราคาผักเริ่มทรงตัวและจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังพบว่าทุกห้างได้ให้ความร่วมมือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยห้างแม็คโคร ได้มีการจัดโปรโมชันลดราคาทั้งหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซอสปรุงรส หมวดของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และจะหมุนเวียนสินค้าที่จำเป็นมาลดราคาให้แก่ทั้งผู้บริโภคและร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนและต้นทุนให้ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือค้ากำไรเกินควร หรือพบร้านค้าใด ไม่มีการปิดป้ายราคา ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยหากมีการฉวยโอกาสขึ้นราคา ค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท