นายสุธาศิน อมฤก (บังจู) นายกสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย และประธานกลุ่มผู้ค้าไข่ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” สถานการณ์ไข่ไก่ ตอนนี้คนกลางทำคิวกันเต็มหมด และรับภาระต่างๆเอาไว้เอง แต่จะแบกภาระไว้ได้นานแค่ไหนเพราะโดนภาคบริษัทตีทุกวัน โดยเฉพาะภาคอีสานถึงรอบต้องเข้าไปรับไข่กลับมา ลูกค้าอยู่ที่ไหน ยังไม่รู้เลย
แต่ต้องรีบขาย ถ้าไม่ขาย ไข่ใหม่ก็มาสะสมอีก เจ็บตัว ผู้ค้าโดนเฉือนเนื้อกันเป็นแถว ทำอย่างไรของก็คามืออยู่ ถ้าไม่รีบขาย บ้านก็ไม่มีที่จะกองไข่ เงินก็จะไม่มีไปซื้อไข่ไก่ ก็ต้องยอมขายขาดทุน แล้วถ้าเกิดเป็นอย่างนี้ก็จำเป็นที่จะต้องงดคิว หรือเบรกรับซื้อ ไม่ไปรับไข่ไก่จากฟาร์ม ไม่เบรกได้อย่างไร โอกาสครั้งหน้าค่อยมาว่ากันใหม่ แต่ถ้ากัดฟันไหวก็ประคองกันไป
นายสุธาศิน กล่าวว่า วันนี้ผู้ค้าเราต้องถอยราคาไข่ไก่กันเอง เนื่องจากไม่ยอมมีใครปลดแม่ไก่ ราคาก็ต่ำเหลือ 30 บาทไม่จูงใจ ทำให้ไข่ไก่ เบอร์ 2 เยอะมาก ซึ่งเป็นตัวปัญหา จากไก่สาวมาดันไข่ผลิตเพิ่ม ส่วนการส่งออกก็มีปัญหาจากก่อนหน้านี้เคยขายไข่ไก่ให้กับเวียดนามและกัมพูชาได้ แต่ตอนนี้ทั้ง 2 ประเทศ หันไปนำเข้าจาก สปป.ลาว ซึ่งราคาไข่ไก่ต่ำกว่าราคาประเทศไทย แผงละ 8 บาท ก็อาจจะเป็นไปได้ นี่เป็นการตั้งข้อสังเกตในวงการไข่ไก่”
"เวลาเคาะต้นทุนการเลี้ยง ก็จะบอกว่า ค่าไฟขึ้น ค่าแรงขึ้น ค่าน้ำมันขึ้น ค่าดอกเบี้ย ค่าอาหารขึ้น ค่าพันธุ์สัตว์ขึ้นส่วนคนกลาง ค่าใช้จ่ายในการขายก็ขึ้นเช่นกันค่าไฟ ค่าแรง ค่าน้ำมัน ค่าดอกเบี้ย แต่ผู้ค้าไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้เลย เคยขายได้กี่บาท ก็ขายได้แค่นั้น (อิงราคาแนะนำ) ดังนั้นในช่วงนี่ราคาก็ควรจะปรับถอยลงมาเล็กน้อยตามกลไกตลาด เพราะสภาวะตลาดแบบนี้กำลังซื้อปลายทางไม่มี เมื่อราคาถอย คนที่ยังพอมีกำลังได้อยู่ก็ไม่ขวนขวายที่จะปลด"
“ แต่ถ้าราคาเริ่มถอยลงมาเพื่อที่จะให้เกิดกระตือรือร้นที่จะเร่งปลดไก่เพื่อรักษาเสถียรภาพ แล้วในการรักษาเสถียรภาพอย่างไรทำไมราคาไข่ไก่ไม่ถอยผมเองก็เงียบมานาน และมองสภาวะทุกวัน มันเริ่มหนักขึ้นทุกวัน เลยต้องออกมาสะกิดกันบ้างหลายคนอาจมองว่าผมปั่นอีกแล้ว ก็แล้วแต่ใครจะมอง เราต้องออกมาพูดความจริงกันบ้างในสภาวะแต่ละช่วง ว่าสภาวะเป็นอย่างไร จะหาวิธีแก้ไขกันอย่างไร แต่วันนี้ผู้ค้าเจ็บมีใครเคยเห็นไหม ลองไปดูในกลุ่มสมาคมมีการประกาศขายเครื่องคัดไข่ไก่ เพราะมือใหม่ไปไม่ไหว เพราะรายใหม่อยากจะเกิดก็เกิดไม่ได้ สุดท้ายไปไม่รอด
สมัยก่อนผู้ค้าไข่ไก่ จะอยู่ตามซอย ตามหมู่บ้าน จะไม่ออกมาเปิดหน้าร้าน ถึงเวลาแบกไข่ไก่ออกมาส่งตลาดสด ไม่มีหน้าร้าน แต่ในระยะ 6-7 ปี หลังมานี้จะเริ่มมีการเปิดหน้าร้านมาก ไม่ไปอาศัยตลาดสด ตลาดนัด ให้ลูกค้าขาจร วอร์คอินเข้ามา สร้างฐานลูกค้าใหม่จากเห็นหน้าร้านก็เข้ามา ตอนแรกที่เปิดหน้าร้านจะเป็นแค่ไข่ไก่อย่างเดียว 4 ปีหลังก็เริ่มมีของเพิ่มเข้ามาขาย คือ ผู้ค้าก็พยายามที่จะเอาตัวรอดหาโน้นนี่มาขายคู่กันไป แต่เป็นในรูปแบบขายส่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ข้าวสาร ส่วนอีสาน ก็มีน้ำปลาร้า ผลิตภัณฑ์แบบขวดขายด้วย แต่จะไม่ขายของจุกจิก แล้ววันนี้พอมาเกิดสถานการณ์แบบนี้ ใครจะเห็นใจผู้ค้าบ้าง