เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ โครงการประกันรายได้ข้าว ปี 4 ฤดูกาล 2565/2566 และ โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท หรือ เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ วงเงินรวมประมาณ 81,200 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ นั้น ล่าสุด มีความคืบหน้าแล้ว
นายธีร์วริศ พรพันธวิศ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน และ ในฐานะคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 รอบที่ 1 เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ลงนาม โดยนายกฤชธนา ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร 1 อนุกรรมการและเลขานุการ ได้มีหนังสือเชิญประชุม ราคาเกณฑ์อ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 งวดที่ 1-6
นอกจากนั้นยังมีวาระเพื่อทราบ 3 วาระ ประกอบด้วย
1.มติคณะรัฐมนตรีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66
2.ความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/55
3.ผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรโดยตรง คาดว่า การจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้และเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จะเริ่มจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.2565 เป็นต้นไป
ตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้
เข้าสู่เว็บไซต์ (คลิก) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2565/66 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันที หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน
โดยประกันรายได้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 (รอบที่ 1) เกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับการชดเชยต้องขึ้นทะเบียนกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังปลูก 15-60 วัน