นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย นายกสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย และนายกสมาคมชาวนาข้าวไทย พร้อมกรรมการฝ่ายราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงพาณิชย์ ธ.ก.ส.ของกระทรวงการคลัง เป็นต้น ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/ 2565 วันนี้ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่(เกียกกาย) ที่ประชุมมีผลสรุปดังนี้
1.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 4 ซึ่งจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัวเรือน ใช้เงินงบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 86,740.31 ล้านบาท
2.โครงมาตรการคู่ขนาน ประกอบด้วยโครงการย่อย 3 โครงการ 3.1โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขายข้าวในช่วงระยะเวลาที่ข้าวประดังกันออกสู่ตลาดจำนวนมาก เพื่อป้องกันข้าวเปลือกราคาตก โดยจะมีเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,500 บาทต่อรายต่อข้าว 1 ตัน
3.2 โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ3ให้กับสหกรณ์ที่ชะลอการขายข้าวหรือเก็บสต๊อกข้าวไว้เพื่อไม่ให้ข้าวที่ออกมากมาจนล้นตลาดจนทำให้ข้าวราคาตก 3.3 โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 ให้กับโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวไว้เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 3โครงการใช้งบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 8,022.69ล้านบาท
3.โครงการไร่ละ 1,000 เป็นการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ เป็นเงินรวมกันทั้งสิ้น 55,364.75 ล้านบาท โครงการนี้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท
" วันนี้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบและขั้นตอนต่อไปก็จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป " นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า นโยบายประกันรายได้ที่ท่านรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ทำมาสร้างความพอใจให้กับชาวนามาก ทำให้ชาวนามีทางเลือก ชาวนาส่วนมากจึงได้ส่งคำขอบคุณผ่านสมาคมมาให้ขอบคุณรองนายกฯจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
“พูดจากความจริงใจ จากชาวนาและตัวแทนเกษตรกร ท่านจุรินทร์ได้ต่อนโยบายนี้ขึ้นมาอีก เป็นปีที่ 4 ในความรู้สึกของชาวนาโครงการนี้ถือว่าดีมากๆ เพราะผมในฐานะนายกสมาคมก็ขอขอบคุณผ่านสื่อมวลชนว่าสิ่งที่รองนายกฯจุรินทร์ ทำให้ชาวนาเป็นสิ่งที่ดี” นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าว
แหล่งข่าว ธ.ก.ส. เผยว่า ระยะเวลาโครงการ (ใช้ช่วงเวลาเดียวกับโครงการฯ ปี 1- ปี 3) เกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับการชดเชย ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรหลักปลูก 15-60 วัน โดยแบ่งเป็น ภาคอื่นๆ วันที่ 1 เมษายน 2565 -วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ส่วนภาคใต้ วันที่ 16 มิ.ย.65 -28 ก.พ. 2566 ที่นาแต่ละแปลงได้รับสิทธิรับเงินชดเชย 1 ครั้ง
เกษตรกรในงวดแรก คาดว่า วันที่ 14 ตุลาคม 2565 จำนวน 33 งวด งวดสุดท้าย วันที่ 26 พ.ค. 66 ธ.ก.ส.จ่ายเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการ งวดแรกวันที่ 19 ตุลาคม 2565 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ต.ค.65 และงวดสุดท้าย วันที่ 31 พ.ค. 2566 เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.2566 จนถึง วันที่ 31 กรกฎาคม 2565