นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึความคืบหน้าการก่อสร้างลานตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ ณ ด่านรถไฟโม่ฮาน ที่ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จและผ่านการตรวจรับจากหน่วยศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) แล้ว และล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ทาง GACC ได้มีการประกาศในบัญชีรายชื่อสถานที่ควบคุมตรวจสอบผลไม้นำเข้าในเว็บไซต์ของ GACC แล้ว ส่งผลให้ด่านรถไฟโม่ฮานมีความพร้อมในการตรวจสอบกักกันผลไม้นำเข้าได้ตามระเบียบที่กำหนดของ GACC ทุกประการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาและการปฏิรูปมณฑลยูนนานมีกำหนดจัดพิธีเปิดลานจำเพาะสินค้าผลไม้ ณ ด่านรถไฟโม่ฮาน ในวันที่ 3 ธันวาคม 2565 นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีของการเปิดใช้บริการของรถไฟลาว-จีน โดยการเปิดลานจำเพาะสินค้าผลไม้ ณ ด่านรถไฟโม่ฮาน ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าของจีนและไทย
เพราะเป็นการเพิ่มตัวเลือกในการขนส่งทางรางที่จะช่วยให้ต้นทุนลดต่ำลง และมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการขนส่งสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่าย เช่น ผัก ผลไม้ เข้าสู่จีนตอนใต้ และกระจายไปทั่วประเทศจีน ตลอดจนช่วยเพิ่มปริมาณการค้าสองทางระหว่างไทย-จีนให้มากขึ้น
“เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากรถไฟจีน-ลาวอย่างคุ้มค่า ผู้ประกอบการไทยควรเร่งวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ กับบริษัทผู้นำเข้าและบริษัทโลจิสติกส์ เพื่อยืนยันเรื่องกฎระเบียบการนำเข้าและความชัดเจน ซึ่งจะทำให้การส่งออกสินค้าจากไทยไปจีน และนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยไปจีน”
โดยก่อนหน้านี้ เส้นทางรถไฟลาว–จีน ได้มีการเปิดใช้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา แต่ในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่สามารถส่งออกผลไม้ไทยผ่านเส้นทางดังกล่าวได้ เนื่องจากต้องรอความพร้อมของด่านรถไฟโม่ฮานในการรองรับการตรวจปล่อยสินค้าจำเพาะผลไม้ โดยปัจจุบันลานดังกล่าวได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว และจะเปิดให้ใช้บริการในวันที่ 3 ธันวาคม 2565
สำหรับมณฑลยูนนาน ถือว่าเป็นมณฑลหนึ่งของจีน ที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าและบริการของไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด อีกทั้งมณฑลยูนนานมีเส้นทางเชื่อมโยงสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเส้นทาง R3A และเส้นทางรถไฟลาว-จีน ที่เชื่อมไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของจีนและทั่วโลก
อย่างไรก็ตามได้สั่งการทูตพาณิชย์เร่งสร้างเครือข่ายทางโลจิสติกส์ไทย-จีน เพื่อให้มีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น และจะส่งผลให้ค่าบริการโลจิสติกส์โดยเฉพาะรถไฟลาว-จีนจะปรับตัวลดลงและแข่งขันได้ในระยะยาว ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา