นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ร่วมกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จัดกิจกรรมส่งเสริมการสร้างแบรนด์และออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับสินค้า GI อันนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างโอกาสทางการค้าให้กับสินค้า GI ไทยในเวทีโลก โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติร่วมถ่ายทอดความรู้ ณ โรงแรมพาโค่ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งปัจจุบันสินค้า GI ไทยที่จดทะเบียนในต่างประเทศ มีทั้งหมด 8 สินค้า ใน 31 ประเทศ คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ในสหภาพยุโรป กาแฟดอยช้าง ในสหภาพยุโรป กาแฟดอยตุง ในสหภาพยุโรปและกัมพูชา ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ในสหภาพยุโรป
เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ในเวียดนาม ผ้าไหมยกดอกลําพูน ในอินเดียและอินโดนีเซีย มะขามหวานเพชรบูรณ์ ในเวียดนาม และ ลําไยอบหืงเนื้อสีทองลําพูน ในเวียดนาม
นอกจากนี้ กรมฯ ได้นำคณะผู้แทนจาก WIPO และภูมิภาคอินโดแปซิฟิก 5 ประเทศ ได้แก่ ภูฏาน บังกลาเทศ สปป.ลาว กัมพูชา และซามัว ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีสินค้า GI มากที่สุดในประเทศไทย เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตและศึกษาแนวทางการรักษามาตรฐานสินค้า GI ที่มีคุณภาพ ของ 3 สินค้า
ขึ้นชื่อของจังหวัด ได้แก่ ผ้าไหมปักธงชัย เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน และไวน์เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสินค้า GI ที่มีศักยภาพพร้อมเติบโตสู่ตลาดโลก สร้างมูลค่าทางการตลาดและนำรายได้เข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นรวมกว่า 162 ล้านบาท/ปี และในการประชุม APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่ผ่านมา ผ้าไหมปักธงชัย และไวน์เขาใหญ่ ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงอัตลักษณ์พื้นถิ่นด้วย
กรมฯ ได้ทำงานเชิงรุกผลักดันให้ ไวน์เขาใหญ่ได้รับการจดทะเบียน GI ในสหภาพยุโรป เพื่อสร้างการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค รวมทั้งสร้างโอกาสในการส่งออกและเปิดตลาดยุโรป เพื่อนำรายได้กลับสู่ชุมชนท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก