“ประกันรายได้ยางพารา” วุ่น เจอโรคเลื่อน เป็นรอบ 4 แล้ว

“นโยบายประกันรายได้เกษตรกร” ได้ถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขับเคลื่อนโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นับว่าเป็นนโยบายสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรทั่วประเทศ ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน, ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง และข้าวโพดแล้ว ที่สำคัญ นโยบายนี้ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย ในรอบ เฟส 4 มีประกันรายได้ข้าว ชนิดเดียวกำลังเคาะจ่ายประกันรายได้
 

 

ล่าสุด นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อวาน (6 ม.ค.65) ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้โทรมาแจ้งเลื่อนการประชุม กนย. จากวันที่ 12 มกราคม  ออกไปเป็น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยไม่ทราบสาเหตุที่แจ้งมา แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องงบประมาณที่ยังไม่ลงตัว จึงทำให้เลื่อนออกไปอีกรอบเป็นรอบที่ 4 แล้ว

 

 

 

อย่างไรก็ดีโครงการประกันรายได้ยางพาราควรจะเริ่มประกันรายได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 -มีนาคม 2566  แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีด ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด รายละไม่เกิน 25 ไร่ ประกันรายได้ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม ประกันรายได้ราคาน้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม ประกันรายได้ราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัมงบประมาณ 

 

 

เมื่อผ่านการพิจารณาเห็นแล้วก็ให้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการจัดทำรายละเอียดโครงการ เพื่อนําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในลำดับต่อไป วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท  เป็นโครงการของรัฐบาล ถ้าไม่ดำเนินการเสียหน้า แล้วพ่อค้าก็รู้ ก็ยิ่งทำให้ถูกกดราคาลงไปอีก เป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของชาวสวนยาง ที่ต้องเจอโรคเลื่อนอีกครั้ง

 

 

สำหรับโครงการประกันรายได้ยางพารา เฟส 4 สามารถลองตรวจสอบสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.rubber.co.th/gir/index เบื้องต้นก่อน หากสงสัย หรือไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กยท. สำนักงานใหญ่  กยท.จังหวัด / กยท. สาขา ทั่วประเทศ เมื่อทราบวันโอนเงินแล้ว นั้น เกษตรกร ชาวสวนยางก็สามารถคลิกตรวจสอบสถานะโอนเงิน  ผ่านลิงค์ ธ.ก.ส. เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com/

 

นายอุทัย กล่าวอีกว่า ทางสมาพันธ์ ในฐานะผู้นำเกษตรกร ก็ไม่ได้แค่จะรอนโยบายรัฐบาล ก็ยังช่วยหาทางออกเพื่อกระตุ้นการใช้ยางพารา โดยการจัดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 วันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ตลาดกลางยางพาราภาคตะวันออกอำเภอวังจันทร์  จังหวัดระยอง ในพิธีเปิดงาน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ได้เชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานเข้าเยี่ยมชมการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานราชการและร้านค้าเอกชน

 

 

โดยเน้นการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565ฯพณฯนายกรัฐมนตรีเป็นพยานในการลงนามจับคู่ธุรกิจระหว่างไทยกับต่างประเทศใน EEC 5 คู่

 

นอกจากนั้นก็ยังมีการให้ความรู้เรื่องคาร์บอนเครดิตในสวนยางและการซื้อขายคาร์บอนเครดิต  จาก สมาคมยางพาราสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บรรยายโดย Dr. Bounthong Bouahome ตำแหน่ง ประธานสมาคมยางพารา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและ Mr.Saneu  Chounramany  ตำแหน่ง ที่ปรึกษาสมาคมยางพารา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

นายอุทัย กล่าวว่า ในงานนี้ยังเปิดเวทีให้แต่ละพรรคดีเบต นโยบายแต่ละพรรคจะช่วยเกษตรกรอย่างไร โดยเฉพาะชาวสวนยาง  ที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะตัดสินใจเลือกเข้าสภา