ราคาปาล์มไทยขยับขึ้น หลังอินโดนีเซียลดส่งออก

18 ม.ค. 2566 | 02:55 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ม.ค. 2566 | 10:05 น.

ราคาปาล์มไทยขยับขึ้น หลังอินโดนีเซียลดส่งออก ส่งผลราคาในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น แนะเกษตรกรอย่าเร่งตัดให้ตัดสุก จะได้น้ำหนักและราคาดีขึ้น

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด พบว่า อินโดนีเซียที่เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มอันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศปรับมาตรการกำกับดูแลการส่งออก จากเดิมที่กำหนดให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มในประเทศ 1 ส่วน จึงจะสามารถส่งออกน้ำมันปาล์มได้ 8 ส่วน เป็นให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มในประเทศ 1 ส่วนต่อการส่งออกเหลือ 6 ส่วน มีผลตั้งแต่มกราคม 2566

 

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน

 

เนื่องจากในช่วงต้นปี ผลผลิตจะออกน้อย และปีนี้คาดว่าจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงานเป็น B35 ที่กำหนดจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จึงคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกจะมีแนวโน้มขยับสูงขึ้น และจะส่งผลทำให้ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศไทยปรับสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน

ราคาปาล์มไทยขยับขึ้น หลังอินโดนีเซียลดส่งออก

 

จากแนวโน้มที่อินโดนีเซียปรับลดสัดส่วนการส่งออกน้ำมันปาล์มลงมา และผลักดันให้มีการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงานเพิ่มขึ้น จะส่งต่อราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จากปริมาณซัปพลายที่ลดลง และจะส่งผลต่อเนื่องถึงราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในไทย จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่าเร่งตัดปาล์ม ขอให้ตัดปาล์มสุก เพื่อให้ได้น้ำหนักและราคาดีขึ้น

 

ราคาปาล์มไทยขยับขึ้น หลังอินโดนีเซียลดส่งออก

 

สำหรับสถานการณ์รถบรรทุกติดคิวหน้าโรงงาน ปัจจุบันได้ผ่อนคลายลงมากแล้ว และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ ได้เปิดรับซื้อตามปกติทุกโรงงานแล้ว ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในแหล่งผลิตสำคัญเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยตั้งแต่ 0.10-0.60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)

ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่ไปประชุมหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงงานสกัด ลานเท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อสรุปให้โรงสกัดทุกโรงเปิดรับซื้อและเดินเครื่องเต็มกำลัง และให้แจ้งแผนปรับปรุงปิดโรงงาน ซ่อมเครื่องจักรก่อนล่วงหน้า

 อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กรมฯ จะเดินหน้าตรวจสอบสถานการณ์การซื้อขายอย่างใกล้ชิดต่อไป หากพบเห็นผู้ประกอบการโรงสกัดและลานเทรายใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ หรือกดราคารับซื้อ จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด และหากเกษตรกรพบเห็นการกดราคา หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป