รศ.ธนพร ศรียากูล กรรมการในคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา กรมประมงได้เสนอเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติที่จะออกประกาศให้เรือประมงพื้นบ้านต้องมีใบอนุญาตเหมือนกับเรือประมงพาณิชย์ ซึ่ง พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานคณกรรมการฯ ก็มีความห่วงใยกับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน เนื่องจากหากมีการกำหนดให้เรือประมงพื้นบ้านต้องมีใบอนุญาตแล้ว หากมีพี่น้องประมงพื้นบ้านคนไหนซึ่งไม่มีใบอนุญาตประมงพื้นบ้านแล้วออกไปทำการประมงโดยที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นความผิดร้ายแรงและมีอัตราโทษสูง
ประกอบกับในรายละเอียดของการดำเนินการต่างๆ ยังต้องอำนวยความสะดวกกับพี่น้องชาวประมง จึงได้สั่งการให้ " บิ๊กโจ๊ก " หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของชาวประมงพื้นบ้านต่อการจัดให้มีใบอนุญาตประมงพื้นบ้านเพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปอย่างถูกต้องและรัดกุม และรับรู้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งงานนี้จะจัดในวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หอประชุมอานนท์ กรมประมง
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะมาเป็นประธานด้วยตัวเอง จึงขอเชิญประธานสมาคมประมงพื้นบ้าน ผู้แทนชาวประมงพื้นบ้านในทุกจังหวัด ทุกพื้นที่มาร่วมกันเพื่อประชุมให้ความคิดเห็นให้ข้อมูลเพื่อที่จะได้นำข้อมูลที่ได้นำไปปรับปรุง กระบวนการออกใบอนุญาตประมงพื้นบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประมงพื้นบ้านต่อไป
รศ.ธนพร กล่าวว่า ในความคิดเห็นส่วนตน การออกใบอนุญาตประมงโดยหลักการเป็นเรื่องที่ดี และเหมาะสม แต่รายละเอียดที่จะมาออกใบอนุญาตประมงพื้นบ้าน ก็คือ 1.เครื่องมือประมงควรจะเป็นแบบไหน 2.ขนาดเรือ ควรจะเป็นขนาดไหน 3.ขนาดเครื่องยนต์เรือ ควรจะเป็นขนาดไหน 4. ประเภทของเครื่องมือการประมงที่จะนำออกไปทำการประมง 5.วิธีการที่จะขอใบอนุญาต โดยทั้ง 5 เรื่องจะเป็นเรื่องที่นำมาหารือกับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว อย่างไรก็ดีก่อนหน้านั้นที่มีกระแสข่าวให้ประมงพื้นบ้าน มายื่นขอใบอนุญาตนั้นเป็นการทดสอบระบบ
นิยาม “ประมงพื้นบ้าน” ใน พ.ร.ก.การประมงฯ กำหนดไว้แล้วก็คือเรือประมง ขนาด 10 ตันกรอสลงมา แต่คราวนี้ต้องมารับฟังความคิดเห็นว่าการออกใบอนุญาตประมงจะออกกับขนาดเรือ สักกี่ตันกรอส เพราะเรือจำนวนพื้นบ้าน มีจำนวนมาก และในเรือจำนวนมากก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการจับปลาสูง
“ แต่ก็ต้องมาคุยกันเพื่อความรอบคอบ เพราะกฎหมายมาตรานี้มีโทษรุนแรงที่ทำการประมงโดยทีไม่มีใบอนุญาต ของพื้นบ้านปรับตามตันกรอสไม่ถึง 30 ล้านบาท แต่ขั้นต่ำปรับ 2 แสนบาท ” รศ.ธนพร กล่าวย้ำในตอนท้าย