ด่วน ! สภาล่มอีกแล้ว "แก้กฎหมายประมง" วืด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (9 ก.พ. 2566 )  เวลา 18.30 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียก ส.ส. เข้าที่ประชุมสภาฯ เพื่อแสดงตนในการลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.  2558 พ.ศ. ....  

อย่างไรก็ดีเมื่อนับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมมีเพียง 89 คน ไม่ครบองค์ประชุม ประธานฯ จึงปิดการประชุมทันที ทำให้สภาฯ ต้องล่มอีกครั้ง  
 

  

 

 

สำหรับร่าง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... มีทั้งหมด 7 ฉบับ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคชาติไทยพัฒนา,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคก้าวไกล,พรรคภูมิใจไทย,พรรคเพื่อไทย,พรรคประชาชาติ

ประกอบด้วย

1. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ….  (คลิกอ่าน)   (นายนิกร จำนง  กับคณะ เป็นผู้เสนอ) 

2. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558  พ.ศ. ....  (คลิกอ่าน) (นางกันตวรรณ ตันเถียร กับคณะ เป็นผู้เสนอ)

3. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ....(คลิกอ่าน) (นายศักดินัย นุ่มหนู กับคณะ เป็นผู้เสนอ)

 

 

4. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... (คลิกอ่าน) (นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)

5. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ....  (คลิกอ่าน) (นายชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ)

6. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... (คลิกอ่าน) (พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กับคณะ เป็นผู้เสนอ)

7. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ... (คลิกอ่าน)(นายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)

 

 

เหตุผลโดยที่กฎหมายว่าด้วยการประมงที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการที่จำกัดสิทธิ ในการทำประมง อาทิ จำกัดการทำประมงพื้นบ้านให้อยู่เฉพาะในเขตทะเลชายฝั่ง กำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ ขอรับใบอนุญาตที่ไม่เอื้อต่อการทำประมง และกำหนดให้การขนถ่ายสัตว์น้ำในทะเลทำได้เฉพาะเรือขนถ่ายสัตว์น้ำที่จดทะเบียนเท่านั้น

นอกจากนี้ บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการทำประมง การควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง ตลอดจนมาตรการคุ้มครองแรงงาน ยังไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันอีกทั้งบทกำหนดโทษที่ใช้บังคับอยู่มุ่งพิจารณาเฉพาะขนาดของเรือประมงเป็นสำคัญ  แต่มิได้คำนึงถึงความร้ายแรงของพฤติการณ์ในการกระทำความผิดและความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพยากรสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม

ดังนั้นจึงสมควรแก้ไขเพิ่มติมบทบัญญัติดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการด้านการประมงและการอนุรัษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งเสริมการทำประมงพื้นบ้านให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน

 

ประมวลภาพการต่อสู้ชาวประมง 22 จังหวัด