วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม “มาตรการควบคุมคุณภาพทุเรียนส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน” พร้อมมอบนโยบายการกำกับดูแลการส่งออกทุเรียนไปจีนในฤดูกาลผลิตปี 2566 แก่คณะผู้บริหารและนายตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารศูนย์ปฏิบัติการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมวิชาการเกษตร
นางสาวมนัญญา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ได้รับรายงานจากนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมาสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสินค้าพืชตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อออกใบรับรองสุขอนามัยพืชประกอบการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ได้ตรวจและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชมากกว่า 400,000 ฉบับ ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้มี "ทุเรียน" หนึ่งในสินค้าเกษตรสำคัญ มีการส่งออกไปจีนมากเป็นอันดับ 1 โดยมีมูลค่ามากกว่าแสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลผลิตทุเรียนปี 2566 นี้ คาดประเทศไทยจะมีคู่แข่งทางการค้ามากขึ้น เนื่องจากทางการจีนอนุญาตให้ประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ สามารถส่งออกผลทุเรียนไปยังประเทศจีนได้แล้ว
ดังนั้นการที่จะสามารถรักษาตลาดส่งออกทุเรียนไทยไว้ได้จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพที่ได้มาตรฐาน จึงได้มอบนโยบายและสั่งการให้กรมวิชาการเกษตรตั้งหน่วยเฉพาะกิจ “ระดับกรม” ขึ้นตรงอธิบดีฯ เพื่อดำเนินการตรวจสอบทุเรียนต้องได้คุณภาพ รวมถึงการปราบปรามไม่ให้มีทุเรียนสวมสิทธิ์ขั้นเด็ดขาด
ทั้งนี้โดยออกมาตรการควบคุมกำกับดูแลให้ครอบคลุมทั้งการนำเข้าและการส่งออกทุเรียน โดยการนำเข้าจะต้องเข้มงวด ตรวจสอบ และติดตามการนำเข้าทุเรียนทุกชิปเมนท์ และต้องแจ้งวัตถุประสงค์การนำเข้าต่อด่านตรวจพืชที่นำเข้าพร้อมกับแจ้งด่านตรวจพืชที่อยู่ในพื้นที่สถานที่เก็บเพื่อตรวจติดตามการแปรรูป หากมีการส่งออกจะต้องตรวจสอบแหล่งที่มาและปริมาณการนำเข้าที่สัมพันธ์กัน
นอกจากนี้การส่งออกทุเรียนทุกชิปเม้นท์จะต้องผ่านการตรวจใบรับรอง GAP ที่รับรองจากสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 และเขตที่เกี่ยวข้อง โดยด่านตรวจพืช สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ทุเรียนทุกชิปเม้นท์ 100 % ที่ส่งออกต้องผ่านการตรวจคุณภาพ (เปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งเนื้อทุเรียน) และผ่านการตรวจศัตรูพืช
ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ตามข้อตกลงตามพิธีสารไทย-จีน เพื่อรับรองสุขอนามัยพืช รวมทั้งผนึกซีลกรมวิชาการเกษตรท้ายตู้จนถึงปลายทางประเทศจีน โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินการทุกขั้นตอน ในฤดูกาลผลิตปี 2566 ทุเรียนส่งออกต้องเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเท่านั้น จะต้องไม่มีทุเรียนด้อยคุณภาพหลุดออกไปทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยโดยเด็ดขาด
“ตอนนี้เรื่องคุณภาพผลผลิตและผู้ปฏิบัติงานเป็นสิ่งที่สำคัญได้เน้นย้ำอธิบดีกรมวิชาการเกษตรไปว่า ต้องกำจัดทุเรียนอ่อนออกไปให้มากที่สุด ให้เพิ่มพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยกัน สิ่งที่สำคัญการจับทุเรียนอ่อนพอจับเสร็จแล้วพ่นสี ยังส่งกลับเอามาขายข้างทาง ผู้บริโภคในประเทศไปซื้อก็กลายเป็นว่าทำไมทุเรียนหน้านี้ไม่ดี อ่อนเยอะจังเลยปีนี้ แต่ตอนนี้แต่ละจังหวัดสามารถทำลายโดยการเผา ไม่ใช่พ่นสีแล้วตีกลับไปเฉย ๆ เป็นมาตรการที่จะต้องออกมาในปีนี้"
ขณะที่ในส่วนของทุเรียนแช่แข็ง ได้สั่งให้ตรวจสอบให้แน่นอนว่า เป็นสินค้าของไทยแน่นอนหรือไม่ เพราะการส่งออกทุเรียนในปีที่แล้วได้ส่งออกไปแทบจะหมด ถ้ายังมีทุเรียนแช่แข็งส่งออกไปในช่วงที่ทุเรียนไทยยังไม่ออก จะทำให้ชาวสวน และคนไทยเสียโอกาส ดังนั้นเวลานี้ด่านตรวจพืชแทบจะตรวจสินค้าในทุกตู้
ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแผนเตรียมการรองรับสำหรับการส่งออกทุเรียนฤดูกาลนี้ไว้แล้ว รวมถึงการจัดประชุมในวันนี้เพื่อให้ด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาทักษะนายตรวจพืชสำหรับตรวจทุเรียนส่งออกไปจีนให้มีความรู้ทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทยให้ยั่งยืน
โดยขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้รับมอบหมายเข้มงวดตรวจสอบ และควบคุมการส่งออกทุเรียนให้เป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออกอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาคู่ค้าที่สำคัญพร้อมกับผลักดันให้การส่งออกทุเรียนไทยมีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรไทยต่อไป สำหรับการส่งออกทุเรียนสดตั้งแต่เดือนมกราคม - 16 กุมภาพันธ์ 2566 ส่งออกไปแล้วจำนวน 16 ชิปเมนท์ ปริมาณ 27,327.95 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2,823.77 ล้านบาท