ยัน “ไม่ดึงเวลา-เตะถ่วง” งบกลาง “กรมการข้าว” กว่า 4 พันล้าน

03 มี.ค. 2566 | 12:02 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2566 | 10:47 น.

ฟังอีกด้าน“รัฐชทรัพย์ ” ปธ.ที่ปรึกษา “ประภัตร โพธสุธน” โต้ข้อกล่าวหาชาวนา 120 คน บุกเกษตรฯ ดึงเวลา-เตะถ่วง” งบกลาง “กรมการข้าว” กว่า 4 พันล้าน แจงยิบ ทำไมชาวนา ถึงยังไม่ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวเยียวยา ปี 2563/64

นายจิตติ เจียมเจือจันทร์ ผู้จัดการสหกรณ์ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 ตนได้นำเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือชาวนา กว่า 120 คน ที่ยังไม่ได้รับชดเชยในโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64  ซึ่งเป็นโครงการชดเชยพายุโพดุล และฝนทิ้งช่วง

ทัั้งนี้ในความจริงกรมการข้าวมีเป้าหมายเยียวยาเกษตรกรกว่า 4 แสนราย มีเกษตรกรบางส่วนได้ไปแล้ว แต่ก็ยังมีกลุ่ม 14 จังหวัด ประมาณ 1.09 แสนรายที่ยังไม่ได้รับการชดเชยเมล็ดพันธุ์ข้าว จึงได้ชักชวนกันมายื่นหนังสือให้นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเร่งรัดให้กรมการข้าวเร่งเยียวยาพันธุ์ข้าวหอมมะลิ และพันธุ์ข้าว กข6 

 

ร้องเรียนปลัดเกษตรฯ

"เรื่องดังกล่าวมีการเรียกร้องมายังกรมการข้าวมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งทางกรมก็ได้ดำเนินการส่งเรื่องต่อให้แล้วแต่มาติดอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลคือ นายประภัตร โพธสุธน เมื่อวานก็ได้มีโอกาสคุยกับนายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ผ่านปลัดกระทรวงเกษตรฯ เพราะถือเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกร" 

 

 

นายจิตติ กล่าวอีกว่า ยังสงสัยว่าทำไมรัฐมนตรีฯยังไม่อนุมัติ  เพราะทางฝั่งรัฐมนตรีก็แจ้งว่าพยายามขอข้อมูลจากกรมการข้าว การพูดลักษณะนี้ไม่อยากคิดว่ากำลังต่อรอง หรือประวิงเวลาอะไรหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าว

ที่สำคัญสภาพัฒน์ฯ ได้อนุมัติงบนี้แล้วมีความคุ้มทุนและมีความเป็นไปได้  และกรมบัญชีกลาง กับสำนักงบประมาณ ก็เตรียมเม็ดเงินนี้ไว้แล้ว บรรยากาศก็เถียงกันไปมา ดังนั้นขอวิงวอนขอให้รัฐมนตรีช่วยเกษตรเซ็นลงนามเพราะชาวบ้านเดือดร้อนอยากได้เมล็ดพันธุ์พันธุ์ข้าว เพื่อที่จะให้เกษตรกรได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวไปปลูกเพื่อแข่งกับตลาดโลก ดังนั้นขอร้องผ่านสื่อฝากไปถึงรัฐมนตรีช่วยฯ ด้วย เพื่อเซ็นลงนามที่จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ

 

ยัน “ไม่ดึงเวลา-เตะถ่วง” งบกลาง “กรมการข้าว” กว่า 4 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวถาม ว่า ทราบหรือไม่  "กรมการข้าว" เปลี่ยนโครงการให้เมล็ดพันธุ์ข้าว  ให้เป็น "ปุ๋ยชีวภาพ" แทน เกษตรกรจะเอาหรือไม่ นายจิตติ ตอบว่า เป็นอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยงยอมรับได้

 

รัฐชทรัพย์ นิชิด้า

ด้าน นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า ประธานคณะที่ปรึกษานายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า  นายประภัตร  ได้สั่งการ ให้มีการชี้แจงกรณี ข่าว การขัดขวาง ที่ถูกกล่าวหาว่า มีการขัดขวาง การเสนอ การขอใช้งบกลาง ของกรมการข้าว ที่กำลังเตรียมเสนอ เข้า ครม.  โดยรวมถึงโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางปี 2566  จนทำให้มีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มชาวนา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา นั้น 

"โดยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมในฐานนะที่เป็นที่ปรึกษาคุณประภัตร  และเป็นผู้กลั่นกรองงานทั้งหมดให้กับคุณประภัตร มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่า  มีขบวนการขั้นตอน ที่ค่อนข้างผิดปกติในการบริหารราชการแผ่นดินของกรมการข้าว  โดยพบว่ามีการเสนอเรื่องต่าง ๆ ไม่ผ่านรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯที่กำกับดูแลโดยตรง"

 

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28  กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่าน  ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมการข้าว เดินทางเข้ามาชี้แจงรายละเอียดเรื่องการเสนอของบกลาง ใน 3 โครงการ จากทั้งหมด 9 โครงการ งบกว่า 4,000 ล้านบาท ได้แก่  1.โครงการการพัฒนาห้องปฏิบัติการการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทย  2.โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2566/67

และ 3.โครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางปี 2566 โดยในส่วนโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยนั้น ได้มีการซักถามข้อมูล อย่างละเอียด ในกรณีมีหนังสือท้วงติง จากสภาพัฒน์ฯ และสำนักงบประมาณ ที่ให้กรมการข้าว กลับไปทบทวน  แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถชี้แจงได้ จึงให้นำกลับไปแก้ไข และยืนยันว่าไม่ได้มีการขัดขวางแต่อย่างใด  

ทั้งนี้ ในส่วนรายละเอียดของโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2566/67 วงเงินงบประมาณ 404.80 ล้านบาท  ที่ถูกกล่าวหาว่า ทางตนขัดขวางความเป็นมา คือปี 2562 (15 ตค. 2562) ครม. อนุมัติแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วง และอุทกภัยปี 2562 โดยมีโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 เป้าหมายเกษตรกร 827,000 ครัวเรือน โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พื้นที่ 6.32 ล้านไร่ วงเงินทั้งสิ้น 1,739.42 ล้านบาท ระยะเวลาดําเนินการเดือ นตุลาคม 2562 – กันยายน 2563 ซึ่งกรมการข้าว ยกเลิกการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากสหกรณ์การเกษตร เนื่องจากล่วงเลยระยะเวลาเพาะปลูก จึงยังคงเหลือเกษตรกรที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว จํานวน 194,492 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 1.43 ล้านไร่

ยัน “ไม่ดึงเวลา-เตะถ่วง” งบกลาง “กรมการข้าว” กว่า 4 พันล้าน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 กรมการข้าว ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบกลางไปยังผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์วงเงินทั้งสิ้น 404.90 ล้านบาท(โดยสํานักงบประมาณได้มีหนังสือแจ้งให้กรมการข้าวพิจารณาปรับแผนงานงบประมาณที่กรมได้รับไป และยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพันเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว โดยให้ความสําคัญเป็นลําดับแรกและหากยังมีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ และจําเป็นต้องได้รับการสนับสนุนให้กรมการข้าวปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือโอนจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร หรือจัดทํา แผนการปฏิบัติงานเพื่อขอตั้งไว้ในรายการงบประมาณรายจ่ายประจําปีตามความจําเป็นและเหมาะสมต่อไป

ต่อมา มีหนังสือด่วนที่สุดที่ นร 0718/17033 ลว 27 สิงหาคม 2564) และ วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 กรมการข้าวขออนุมัติโครงการรักษาระดับปริมาณข้าวและคุณภาพข้าวปี2565/66 จากงบกลางวงเงินทั้งสิ้น 404.90 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์ โดยเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความเห็นชอบโดยไม่ผ่านรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ที่กํากับดูแลกรมการข้าว ตามบันทึกข้อความที่ กษ 2607/1052 ลว 17 พฤษภาคม 2565)

 

ยัน “ไม่ดึงเวลา-เตะถ่วง” งบกลาง “กรมการข้าว” กว่า 4 พันล้าน

โดย (กรมบัญชีกลาง ขอให้กรมการข้าวจัดส่งเอกสารและรายละเอียดประกอบการเสนอ ของบประมาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเหมาะสมของอัตราค่าใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบทางราชการ ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค 0402.4/33982 ลว 14 กย. 65 และหนังสือด่วนที่สุดที่ กค 0402.4/32102 ลว 2 กันยายน  2565) และ 2 กพ. 2566 กรมการข้าวขออนุมัติหลักการดําเนินโครงการรักษาระดับปริมาณข้าวและคุณภาพข้าว ปี 2566/67 จากงบกลาง วงเงินทั้งสิ้น 404.90 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์ตามข้อ 2.โดยเป็นการนําเสนอเข้า ครม. พิจารณาอนุมัติหลักการตาม ความเห็นของสํานักงบประมาณ

ทั้งนี้สำนักงานปลัดฯ  เห็นว่าโครงการฯ ที่เสนอมานั้นไม่อยู่ในขอบข่ายและวัตถุประสงค์วิธีการดําเนินงานของโครงการฯ ที่ ครม. อนุมัติหลักการไว้เมื่อ 15 ตุลาคม 2562 และขอให้ชี้แจงเหตุผลความจําเป็นในการปรับเปลี่ยนการสนับสนุน "เมล็ดพันธุ์ข้าว" มาเป็น "ปุ๋ยชีวภาพ"  (หนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0707/12360ลว.19สค.65) ซึ่งยังไม่ปรากฎเอกสารแนบชี้แจงประเด็นดังกล่าวสภาพัฒน์ฯ ที่ขอให้เสนอประเด็นเพื่อพิจารณาและกําหนดความชัดเจนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการช่วยเหลือ จาก “เมล็ดพันธุ์ข้าว” เป็นปุ๋ยชีวภาพ

รวมถึงกระบวนการชี้แจงทําความเข้าใจให้กับกลุ่มเกษตรกร ไม่ให้เกิดความแตกต่างในการให้ความช่วยเหลือ และขอข้อมูลผลสํารวจความ ต้องการสนับสนุนปัจจัยการผลิต สถานะการทําเกษตรของเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย (หนังสือด่วน ที่สุด ที่ นร 1114/5322 ลว 8 กย. 65) ยังไม่ปรากฎเอกสารแนบชี้แจงประเด็นดังกล่าว

นายประภัตร จึงได้มีบัญชาให้เชิญอธิบดีกรมการข้าว มาชี้แจงข้อมูลรายละเอียดในการเสนอโครงการดังกล่าว โดยกรมการข้าว ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่มาชี้แจงเมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 และไม่สามารถชี้แจงได้ในประเด็นที่เกิดขึ้น และเมื่อกลับไปแล้ว ก็ยังถูกกล่าวหาว่าขัดขวางการช่วยเหลือเกษตรกรด้วย  ซึ่งในเรื่องเป็นเรื่องที่ รับไม่ได้ ก็อยากจะทำความเข้าใจกับเกษตรกร ให้รับทราบที่มาที่ไป

หนังสืออ้างอิง

 

ด้าน เฟซบุ๊ก มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า เหตุการณ์เกิดที่ในกระทรวงเกษตรฯ ถ้าพูดมากกว่านี้จะหนาวกันหมด

 

ยัน “ไม่ดึงเวลา-เตะถ่วง” งบกลาง “กรมการข้าว” กว่า 4 พันล้าน

 

 

ขณะที่ แหล่งข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  หนังสือเวียนแจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เซ็นลงนาม เพื่อขอรับกาารสนับสนุนงบสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2566 ในโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2565 เตรียมเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ในเร็วๆนี้

 

หนังสือสั่งการด่วน

เพจเฟชบุ๊ค ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โพสต์ระบุว่า ไม่มี “เกียร์ว่าง” เดินหน้า “เต็มกำลัง” แก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน…ช่วยเหลือเต็มที่ ไม่ใช่เพราะ “หน้าที่” แต่เป็นความ “ตั้งใจ” ที่อยากจะทำให้สำเร็จ แล้วมา “เสพรอยยิ้ม” ของ “ประชาชน” แค่นี้ก็มีความสุขแล้วความเดือดร้อนของประชาชน…เขาพบแต่ความทุกข์ทรมาน…เพื่อมาขอให้เราช่วย…เรื่องอาจจะใหญ่บ้าง เล็กบ้างผลัดกันไป

อะไรทำได้…ทำทันที!!

อะไรทำไม่ได้…จะกลับไปอธิบาย ให้เหตุให้ผล

อะไรใช้เวลา…ก็แจ้งให้รอหน่อย…และค่อยรายงานกลับเป็นระยะ

…ไม่ใช่หลบหน้า หรือ หนีหาย!!

“คนทำงาน” เพื่อประชาชนผมพร้อม “ปกป้อง รักษา และสร้างขวัญกำลังใจ”