นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช และพังงา ลงพื้นที่ติดตามการซื้อขายมังคุด พบว่าผู้ประกอบการทั้งไทย จีน ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ได้เข้าไปรับซื้อ ส่งผลให้ราคามังคุดเกรดมันรวม ซึ่งเป็นช่วงของผลผลิตรุ่นแรก ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 68-94 บาท
แต่ขณะนี้ เป็นช่วงปลายฤดูของผลผลิตรุ่นแรก และมังคุดเริ่มเข้าสู่เกรดดอกดำ คือ ผลผลิตสุกมาก เกรดตกไซส์ มีปริมาณมากขึ้น และคุณภาพลดลง แต่ราคายังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งกรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ เพื่อระบายออกสู่ช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศ
“ตามวงจรของมังคุด เมื่อถึงช่วงกลางฤดู เข้าสู่ช่วงปลายฤดู มังคุดผิวมันจะน้อยลง ซึ่งผลผลิตส่วนนี้ไม่มีปัญหา เพราะผู้ประกอบการได้เข้ามาแย่งซื้อกันไปหมดแล้ว จากนั้นมังคุดดอกดำจะมากขึ้น คุณภาพอาจจะลดลง แต่กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการตั้งวอร์รูมติดตามอย่างใกล้ชิด และรายงานสถานการณ์ทุกวัน หากจุดไหนมีปัญหา ก็จะเข้าไปดูแลทันที โดยประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ เพื่อระบายออกนอกแหล่งผลิตอย่างรวดเร็ว”
ทั้งนี้ ล่าสุดได้รับรายงานผลการติดตามสถานการณ์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 3 จังหวัด โดยในส่วนของจังหวัดชุมพร ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อที่กลุ่ม วสช. กลุ่มมังคุดศูนย์การเรียนรู้การเกษตรท่ามะพลา วสช. กลุ่มมังคุดคุณภาพสำราญสามัคคี วสช. กลุ่มมังคุดคุณภาพบ้านฉาน และ วสช.หาดยาย พบว่า มีผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยราคามังคุดเกรดมันรวม อยู่ที่ 68-94 บาท/กก. เกรดลาย ประมาณ 47-58 บาท/กก. เกรดดอก อยู่ที่ประมาณ 24-37 บาท/กก. เกรดดำอยู่ที่ 21 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ
ส่วนที่จังหวัดพังงา น.ส.จุฬารัตน์ นุ่มนิ่ม พาณิชย์จังหวัดพังงา ได้แจ้งว่าได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ติดตามสถานการณ์การซื้อขายมังคุด ณ กลุ่มมังคุด ตำบลท่านา กลุ่มมังคุด ตำบลเหมาะ และนางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์มังคุด ณ กลุ่มวิสาหกิจต้นกอ อำเภอร่อนพิบูลย์ พบว่า ถึงแม้ช่วงนี้ เป็นช่วงปลายของมังคุดรุ่นแรกของทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งมังคุดผิวมันจะน้อยลง มังคุดดอกดำจะมากขึ้น คุณภาพอาจจะลดลง แต่มีผู้ประกอบการเข้ามาซื้อขายปกติ
อย่างไรก็ตาม ในเร็ว ๆ นี้ ผลผลิตรุ่น 2 จะออกสู่ตลาด โดยได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ว่า มีผู้ประกอบการ ทั้งผู้ส่งออก ผู้ผลิต ล้งจีน ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ได้พร้อมที่จะเข้ามารับซื้อแล้ว รอเพียงแค่ผลผลิตออกมาเท่านั้น ซึ่งถือเป็นหลักประกันให้กับเกษตรกร ที่ผลผลิตจะมีผู้เข้ามารับซื้อ และจะส่งผลดีต่อราคาปรับตัวสูงขึ้น และยังได้รับรายงานอีกว่า ตลาดต่างประเทศ เช่น จีน มีความต้องการซื้อมังคุดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ส่งออก และล้งเข้ามารวบรวมผลผลิตเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์การซื้อขายทุเรียนภาคใต้ ที่ขณะนี้เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว พบว่า ราคาทุเรียนภาพรวมของภาคใต้ เกรด A-B อยู่ที่ 145-160 บาท/กก. เกรด C 110-115 บาท/กก. เกรด D 90-95 บาท/กก. ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยกรมฯ ได้เตรียมมาตรการรับมือผลผลิตไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยทำงานร่วมกับจังหวัดประสานผู้ประกอบการ ทั้งผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ตลาดกลางสินค้าเกษตร ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น เข้ามารับซื้อแล้ว เพื่อระบายออกสู่ช่องทางต่าง ๆ ทั้งส่งออก และจำหน่ายในประเทศ