จากปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่งผลให้หลายภูมิภาคทั่วโลกต้องเผชิญกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมถึงไทย ซึ่งต้องนำเข้าธัญพืช อาทิ ข้าวสาลี ถั่วเหลือง
ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สำคัญในการเลี้ยงสัตว์ได้แก่ "สุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ" โดยต้นทุนอาหารสัตว์มีสัดส่วนร้อยละ 50-70 ของต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้น ความผันผวนของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ย่อมส่งผลอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ของไทยที่ต้องรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ถึงปัจจุบัน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรมการค้าภายในซึ่งมีพันธกิจในการส่งเสริมพัฒนา สร้างโอกาสและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกร รวมถึงกำกับดูแลราคา ปริมาณ และการแข่งขันในสินค้าและบริการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรม จึงได้จัดทำโครงการเชื่อมโยงอาหารสัตว์ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ปี 2566 ซึ่งเป็นแนวทางในการดูแลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ในการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์ผสมสำเร็จรูปที่ปรับตัวสูงขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ
โดยผู้ขอรับการสนับสนุนต้องเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในสินค้ากลุ่มเป้าหมายรายย่อย รายเล็ก และรายกลาง ที่ขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงสัตว์กับกรมปศุสัตว์ และได้รับมาตรฐานระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม : Good Farming Management) หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ โดยมีจำนวนการเลี้ยงตามเกณฑ์ของกรมปศุสัตว์ ดังนี้
1.ผู้เลี้ยงสุกร ไม่เกิน 5,000 ตัว
2.ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ไม่เกิน 100,000 ตัว
3.ผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ไม่เกิน 100,000 ตัว
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสนับสนุนค่าบริหารจัดการ
1.การซื้ออาหารสัตว์ผสมสำเร็จรูปเป็นการซื้อจากผู้ผลิตที่ได้รับอนุญาตผลิตอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะจากกรมปศุสัตว์ (นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา) หรือสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตอาหารสัตว์ หรือสหกรณ์ผู้รับจำหน่ายอาหารสัตว์
ระยะเวลาการซื้ออาหารสัตว์
วันที่ 7 กรกฎาคม-6 สิงหาคม 2566 (1 เดือน)
ระยะเวลาการยื่นขอรับเงินสนับสนุน
วันที่ 13 กรกฎาคม-12 สิงหาคม 2566 (1 เดือน)
สนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์
ในอัตราไม่เกินกิโลกรัมละ 1 บาท ปริมาณรายละไม่เกิน 10 ตัน วงเงินสนับสนุนรายละไม่เกิน 10,000 บาท และไม่เกินกรอบวงเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ที่ได้รับอนุมัติไว้ 8 ล้านบาท
วิธีการดำเนินการ
1. ประชาสัมพันธ์โครงการ หลักเกณฑ์ฯ และขั้นตอนการยื่นขอรับสนับสนุนค่าบริหารจัดการ
2. ตรวจสอบความถูกต้องของแบบคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ (แบบ อส.1) และเอกสารของผู้เข้าร่วมโครงการฯ ก่อนเสนอคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการเชื่อมโยงอาหารสัตว์ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ปี 2566 ให้ความเห็นชอบ และนำเสนออธิบดีกรมการค้าภายในพิจารณาอนุมัติ และโอนเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ขอรับการสนับสนุนจากโครงการฯ
3.กำกับดูแลให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย
4.สรุปผลการดำเนินงานรายเดือน และเมื่อสิ้นสุดการดำเนินงานตามโครงการฯ พร้อมทั้งส่งเงินคงเหลือรวมดอกผลทั้งหมดคืนกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์
เกษตรกร ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ต้องซื้ออาหารสัตว์ผสมสำเร็จรูปจากผู้ผลิตอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะที่ได้รับใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะจากกรมปศุสัตว์ (นิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดา) หรือสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตอาหารสัตว์ หรือ สหกรณ์ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ และยื่นแบบคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ (แบบ อส.1) พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอรับการสนับสนุนฯผ่านระบบขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ รวมทั้งส่งเอกสารฉบับจริงดังกล่าวมายังกรมการค้าภายใน
กรมปศุสัตว์
กรมปศุสัตว์ ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการฯ หลักเกณฑ์ฯ และขั้นตอนการยื่นขอรับสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ รวมถึงตรวจสอบและรับรองข้อมูลการเลี้ยงสัตว์ (จำนวนสัตว์ สถานะการเลี้ยง และมาตรฐานฟาร์มที่ได้รับ) ของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ในแบบคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ (แบบ อส.1)
สมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ (สุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ)
สมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ (สุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ) ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการฯ หลักเกณฑ์ฯ และขั้นตอนการยื่นของรับสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ
ผู้ผลิตอาหารสัตว์
ผู้ผลิตอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะที่ได้รับใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะจากกรมปศุสัตว์(นิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดา) หรือ สหกรณ์การเกษตรที่ผลิตอาหารสัตว์ หรือ สหกรณ์ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์จำหน่ายอาหารสัตว์ผสมสำเร็จรูปให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และออกใบเสร็จรับเงินเพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ
การยื่นขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ
1.เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ที่ประสงค์ขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ดำเนินการยื่นคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ พร้อมเอกสารหลักฐานตามที่หลักเกณฑ์กำหนด ผ่านระบบขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ รวมทั้งส่งเอกสารฉบับจริงดังกล่าวมายังกรมการค้าภายใน
เอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอรับการสนับสนุน
1. แบบคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ โครงการเชื่อมโยงอาหารสัตว์ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ปี 2566 (แบบ อส. 1)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นขอรับการสนับสนุนคำบริหารจัดการฯ สำหรับกรณีผู้ยื่นขอรับการสนับสนุนฯ เป็นนิติบุคคลต้องมีหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจ
ใบเสร็จรับเงินจากการซื้ออาหารสัตว์
(1) กรณีซื้อจากผู้ผลิตที่ได้รับใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะจากกรมปศุสัตว์(นิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดา หรือ สหกรณ์การเกษตรที่ผลิตอาหารสัตว์ ต้องใช้ใบเสร็จฉบับจริง สำหรับกรณีซื้อจากบุคคลธรรมดา ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่รับอนุญาตผลิตอาหารสัตว์
(2) กรณีซื้อจากสหกรณ์ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ ต้องใช้ใบเสร็จฉบับจริงที่ผู้ยื่นคำขอได้รับจากสหกรณ์ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ และใบเสร็จฉบับสำเนาที่สหกรณ์ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ได้รับจากผู้ผลิตอาหารสัตว์
(3) สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร (Book Bank) ที่ประสงค์ให้โอนเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯโดยชื่อบัญชีต้องเป็นชื่อเดียวกันกับชื่อผู้ขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ทั้งนี้ เอกสารทุกฉบับต้องลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร พร้อมประทับตราสำคัญของหน่วยงาน (ถ้ามี)ในเอกสารทุกฉบับ
ขั้นตอนการยื่นคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ
1.เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการยื่นคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ สามารถดาวน์โหลด แบบคำขอจาก "ระบบขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์" (feed.dit.go.th) หรือ ขอรับที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด
2. เกษตรกรผู้เลียงสัตว์ที่ต้องการยืนคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ กรอกข้อมูลในระบบฯ ประกอบตัวย ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัตรประขาชน หมายเลขโทรศัพท์ ประเภทและจำนวนสัตว์ที่เลี้ยง มาตรฐานฟาร์มที่ได้รับ ปริมาณอาหารสัตว์ที่ซื้อ (ระบุเป็นกิโลกรัม) สถานที่ซื้ออาหารสัตว์ พร้อมทั้งแนบแบบคำขอรับการสนับสนุนฯ (แบบ อส.1) ที่ต้รับการรับรองและลงนามครบถ้วน (ไฟล์ภาพ หรือ ไฟล์ pdf) และเอกสารหลักฐานตามข้อ 6.2 เข้าสู่ระบบฯ
3.เมื่อยื่นข้อมูลตามข้อ 2 เข้าสู่ระบบครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ "เลขคำขอ" ซึ่งผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุนฯ ต้องระบุเลขคำขอที่ได้รับจากระบบ ในแบบคำขอรับการสนับสนุนฯ ฉบับจริง ภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับแจ้งการโอนเงิน
ทั้งนี้ การยื่นคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์จะสมบูรณ์ต่อเมื่อมีการดำเนินการถูกต้องครบถ้วน โดยฝ่ายเลขานุการคณะทำงานฯ จะพิจารณาตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุนฯ หากถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะเสนอคณะทำงานฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบและนำเสนออธิบดีกรมการค้าภายในพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ และโอนเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ แก่ผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุนฯ ตามลำดับที่ยื่นจนครบปริมาณเป้าหมายตามกรอบปริมาณการสนับสนุน หรือสิ้นสุดระยะเวลาตามโครงการ ทั้งนี้ ให้ถือว่า ผลการพิจารณาของอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นที่สุด
การตรวจสอบและการพิจารณา
1.กรมการค้าภายในจะให้การสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ยื่นคำขอรับการสนับสนุนฯ และเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ฯ ภายในกรอบวงเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ไม่เกินจำนวน 8,000,000 บาท (แปดล้านบาทถ้วน) โดยจะพิจารณาสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ให้แก่ผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุนฯ ตามลำดับก่อนหลัง และจะพิจารณาจนกว่าจะครบตามกรอบวงเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ตามโครงการฯ หรือสิ้นสุดระยะเวลาโครงการฯ
2. ฝ่ายเลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการเชื่อมโยงอาหารสัตว์ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ปี 2566 ตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้ยื่นคำขอฯ ให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ในเบื้องต้น หากไม่ถูกต้อง ให้แจ้งผู้ขอรับการสนับสนุน ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องภายใน 48 ชั่วโมงหากถูกต้อง ให้รวบรวมเพื่อนำเสนอคณะทำงานฯ พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
3. เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารที่ได้รับยื่นผ่านระบบฯภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับข้อมูลในระบบฯ ซึ่งผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุนฯ สามารถตรวจสอบสถานะแบบคำขอฯ ว่าอยู่ในขั้นตอนใด ได้ตลอดเวลาผ่านระบบฯ โดยใช้เลขคำขอ คู่กับเลขที่บัตรประจำประชาชน
เมื่อผู้รับคำยื่นขอรับเงินสนับสนุนฯ ได้รับการโอนเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ แล้วต้องจัดส่งใบยืนยันการรับเงินที่ลงชื่อแล้ว
การติดตามและกำกับดูแล
คณะทำงานฯ มีหน้าที่ติดตามกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการฯ และหากตรวจสอบพบว่า การยื่นแบบคำขอของผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขที่คณะทำงานฯ กำหนด กรมการค้าภายในสงวนสิทธิ์ไม่จ่ายเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ หรือ เรียกคืนเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการอาหารสัตว์ที่ได้จ่ายแล้วบางส่วนหรือทั้งหมด และหากตรวจสอบพบว่า มีการจัดทำเอกสารเป็นเท็จ กรมการค้าภายใน จะพิจารณาเรียกเงินที่ผู้ยื่นแบบคำขอได้รับจัดสรรตามโครงการคืนทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ย และดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ คณะทำงานฯ มีอำนาจเชิญหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความเห็น หรือส่งเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาได้ กรณีมีปัญหาในการดำเนินการตามโครงการฯ ให้คณะทำงานฯเสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมการค้าภายในเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด โดยให้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และให้ถือว่าคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นที่สุด