นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมมาตรการรับมือผลผลิตลำไยภาคเหนือที่จะออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ค.-ก.ย.2566 ไว้แล้ว โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้ประกอบการ เพื่อเข้าไปรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรในปริมาณ 1.45 แสนตัน
ซึ่งจะเริ่มทันทีที่ผลผลิตออกสู่ตลาด และยังมีแผนที่จะซื้อไปจำหน่ายในห้างท้องถิ่นจำนวน 600 สาขาทั่วประเทศ หมู่บ้านและคอนโดมิเนียม ประมาณ 100 แห่ง และโมบายพาณิชย์ที่มี 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงประสานโรงอบลำไยภาคเหนือ ปั๊มน้ำมันให้เข้ามาช่วยซื้อ เพื่อช่วยระบายผลผลิตตั้งแต่ต้นฤดูกาล
สำหรับผลผลิตลำไยในปีนี้ กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์คาดว่าจะมีปริมาณ 0.98 ล้านตัน เป็นผลผลิตของ จ.เชียงใหม่ 0.44 ล้านตัน หรือสัดส่วน 42% ของผลผลิตรวม ลำพูน 0.38 ล้านตัน หรือสัดส่วน 37% ที่เหลือเป็นของ จ.เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ โดยผลผลิตได้ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงพีก 3 เดือนนับจากนี้ คาดว่าจะมีผลผลิตลดลง 40% เพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
ส่วนสถานการณ์สต๊อกลำไยอบแห้ง ผู้ประกอบการได้ยืนยันว่าสต๊อกไม่เหลือแล้ว และสต๊อกของจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อลำไยอบแห้งรายใหญ่ ตอนนี้ก็เหลือน้อย ทำให้ทั้งผู้ประกอบการลำไยอบแห้ง มีความต้องการซื้อลำไยเพื่อมาอบแห้ง และตลาดจีน มีความต้องการซื้อ เพื่อทดแทนสต๊อกที่เหลือน้อย
“กรมฯ มั่นใจว่าจากมาตรการที่มีอยู่ ทั้งการเร่งระบายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตในช่วงผลผลิตออกมาก หรือช่วงพีก การเข้ามาแย่งซื้อลำไยช่อ เพื่อนำไปส่งออก และการแย่งซื้อของผู้ประกอบการลำไยอบแห้ง และความต้องการจากตลาดจีน จะทำให้ราคาลำไยปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วมาก โดยขณะนี้ ลำไยเกรด AA อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 28 บาท ปีที่แล้ว 13-15 บาท เกรด A กก.ละ 20-22 บาท ปีที่แล้ว 5 บาท และเกรด B กก.ละ 13-14 บาท ปีที่แล้ว 3-4 บาท”
ด้านนายธนกฤต ตันวัฒนากูล นายกสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้งภาคเหนือ กล่าวว่า ตอนนี้โรงงานลำไยอบแห้งพร้อมที่จะรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกร เพื่อนำมาอบแห้ง เพราะสต๊อกของผู้ประกอบการไม่มีแล้ว และตลาดจีนเองก็ไม่มี ทำให้มีความต้องการสั่งซื้อเข้ามามาก โดยขณะนี้ ราคาเกรดช่ออยู่ที่กก.ละ 30-35 บาท ส่วนลูกร่วงทุกเกรด ทั้ง AA , A และ B ก็ดีมาก ดีกว่าปีที่แล้ว และประเมินว่าราคาน่าจะขยับขึ้นได้อีก แต่ไม่รู้ว่าจะดีเหมือนปี 2562 หรือเปล่า ที่ราคาเคยขึ้นไปสูงสุดกก.ละ 38-40 บาท
“โรงงานลำไยอบแห้งพร้อมที่จะเข้ามาซื้อ ตอนนี้ได้เตรียมโรงงานไว้พร้อมแล้ว ผลผลิตออกมาก็ซื้อได้ทันที โดยโรงงานมีเป็น 100 โรง ถ้าใครช้า ก็อด เพราะปีนี้ผลผลิตช่วงพีกที่จะออกตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย. และพีกสุดช่วง ส.ค.นั้น ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งมาก คิดว่า โรงงานคงแย่งกันซื้อ ทำให้ราคาปีนี้จะอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา”