นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เผยว่า ไทยได้ประสบความสำเร็จในการเจรจากับญี่ปุ่น สามารถปิดดีลเงื่อนไขการส่งออกมังคุดไทยไปญี่ปุ่นโดยไม่ต้องอบไอน้ำ มั่นใจช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ผู้ส่งออกไทย ขณะที่ไทยแจ้งข่าวดีต่อญี่ปุ่นที่สามารถส่งออกส้มมาไทยด้วยมาตรการใหม่ ซึ่งเป็นการบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการอำนวยความสะดวกทางค้า ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิเศษร่วมในความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหารภายใต้กรอบ JTEPA ครั้งที่ 13 ณ ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความสัมพันธ์อันยาวนานภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) โดยคณะอนุกรรมการพิเศษร่วมในความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร ได้มีการประชุมร่วมกัน ครั้งที่ 13 ณ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 มีนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)พร้อมด้วยคณะผู้แทนฝ่ายไทยเข้าร่วม
ประกอบด้วย มกอช. กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมการข้าว กรมประมง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกระทรวงการต่างประเทศได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่น จากกระทรวงเกษตรป่าไม้ และประมง (MAFF) กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ (MHLW) กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น (MOFA)และสำนักงานกิจการผู้บริโภค (CAA)
ในการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นแจ้งข่าวดีว่าได้ออกประกาศเงื่อนไขอนุญาตนำเข้ามังคุดไทยโดยไม่ต้องอบไอน้ำกำจัดแมลงวันผลไม้ลงใน Official Gazette วันที่ 7 สิงหาคม 2566 พร้อมแจ้งกำหนดการเดินทางมาตรวจรับรองก่อนการส่งออกครั้งแรกในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคมอันจะทำให้ไทยสามารถส่งออกมังคุดสดด้วยวิธีการใหม่ที่ไม่ต้องผ่านการอบไอน้ำไปญี่ปุ่นได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและส่งออกมังคุดของไทยแล้วยังช่วยคงความสดใหม่และไม่สร้างความเสียหายให้กับผลมังคุดสดและช่วยเพิ่มอายุการเก็บรักษาของมังคุดให้ยาวนานขึ้น
อีกทั้งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าตลาดส่งออกให้กับมังคุดสดของไทยประมาณปีละ 200 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จในการเจรจาเพื่อให้ญี่ปุ่นมั่นใจในระบบบริหารจัดการและควบคุมแมลงวันผลไม้ของไทย โดยการยอมรับมาตรการสำหรับส่งออกมังคุดของไทยนี้ ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่เกิดจากการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตรที่กำกับดูแลการส่งออกสินค้าพืช และ มกอช.ที่ได้หารือและดำเนินงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562
ผ่านกลไกการเจรจาที่สำคัญทั้งภายใต้กรอบความร่วมมือ JTEPA และกลไกการหารือทางเทคนิคของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายนอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือและผลักดันการเปิดตลาดและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอื่นร่วมกันอาทิการเปิดตลาดส้มโอไทยการเปิดตลาดข้าวกล้องญี่ปุ่น มาตรการทางเลือกในการส่งออกส้มสดญี่ปุ่นมายังไทยโดยฝ่ายญี่ปุ่นได้แสดงความขอบคุณฝ่ายไทยเช่นเดียวกันที่ได้ยอมรับมาตรการทางเลือกสําหรับส่งออกผลส้มญี่ปุ่นมายังไทยที่เจรจาร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและยกระดับความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร อันนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
สำหรับผลมังคุดสดที่จะส่งออกไปยังญี่ปุ่นจะต้องมาจากสวนที่ปลูกเพื่อการค้าและได้รับขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตรผู้ผลิตมังคุดต้องมีการจัดการสวนและการเก็บเกี่ยวมังคุดผลสดตามมาตรฐานการผลิตเพื่อการค้าสำหรับการส่งออกไปญี่ปุ่นมีสุขอนามัยในสวนที่ดีมีการจัดการศัตรูพืชอย่างเหมาะสมรวมทั้งต้องยื่นขอรับการตรวจรับรองสวนเพื่อการส่งออกไปญี่ปุ่นและผ่านอบรมการส่งออกมังคุดผลสดภายใต้มาตรการทางเลือกใหม่จากกรมวิชาการเกษตร
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุจะต้องแจ้งความประสงค์ไปยังกรมวิชาการเกษตร เพื่อขอเข้าร่วมการส่งออกพร้อมยื่นรายชื่อสวนมังคุดที่จะส่งออกไปญี่ปุ่นภายใต้มาตรการใหม่และขอรับการขึ้นทะเบียนโรงคัดบรรจุกับกรมวิชาการเกษตร โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิจัยการกักกันพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร