ดันส่งออก “มังคุด”ล็อตแรก 3 ร้อยตัน รับมาตรการใหม่เข้าตลาดญี่ปุ่น

18 ก.ค. 2566 | 02:56 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ค. 2566 | 03:23 น.

ส่งออกผลไม้ไทย “พาณิชย์” ดันมังคุดไทยบุกตลาดญี่ปุ่นสำเร็จหลังญี่ปุ่นเปลี่ยนมาตรการน้ำเข้าใหม่ไม่ต้องอบไอน้ำ นำร่อง MOU ซื้อทันที 300 ตัน

นายภูสิต  รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังจะปรับปรุงมาตรการการนำเข้ามังคุด โดยลดหย่อนให้มังคุดจากประเทศไทยไม่ต้องผ่านการกำจัดศัตรูพืชด้วยกระบวนการอบไอน้ำ(Vapor Heat Treatment) แล้ว ซึ่งทราบมาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่ามาตรการดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของฝ่ายญี่ปุ่นแล้ว

นายภูสิต  รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
และคาดว่าน่าจะเริ่มประกาศใช้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ จึงได้สั่งการไปยังทูตพาณิชย์ให้เร่งผลักดันมังคุดเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ในทันที ทั้งนี้ เพื่อขยายมูลค่าการส่งออกและช่วยสร้างราคาที่ดีให้แก่มังคุดของไทย

และเพื่อขยายตลาดสำหรับผลไม้ไปยังตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่งพิงเฉพาะตลาดเดิมของมังคุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีนอีกด้วย

สำหรับแผนการเร่งเปิดตลาดมังคุดไทยเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว รายงานว่าที่ผ่านมาญี่ปุ่นจะมีการนำเข้ามังคุดจากประเทศไทยสูงสุดเพียงปีละ 100 ตัน ทั้งนี้เป็นเพราะมังคุดที่จำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นนั้นจะต้องผ่านกระบวนการอบไอน้ำก่อน

ดันส่งออก “มังคุด”ล็อตแรก 3 ร้อยตัน รับมาตรการใหม่เข้าตลาดญี่ปุ่น

ซึ่งส่งผลให้มังคุดไทยที่วางขายอยู่มีราคาแพงตามต้นทุนที่สูงขึ้น และความร้อนก็ได้ทำให้มังคุดมีความอร่อยลดน้อยลงและผลเองก็ดูไม่สวยไม่น่าทานมากนัก

ดันส่งออก “มังคุด”ล็อตแรก 3 ร้อยตัน รับมาตรการใหม่เข้าตลาดญี่ปุ่น

ดังนั้น จากการที่กระทรวงเกษตรได้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่องจนฝ่ายญี่ปุ่นยอมลดหย่อนมาตรการในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นการเปิดประตูมังคุดไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นครั้งสำคัญ เพราะต่อไปชาวญี่ปุ่นจะได้รับประทานมังคุดที่ทั้งอร่อยและมีราคาขายในญี่ปุ่นที่ไม่สูงมากเท่าเดิม ดังนั้น จึงได้นำคณะนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นระดับ CEO ของบริษัทผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่ ให้ร่วมเดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ชิมว่ามังคุดของไทยที่ไม่ได้ผ่านการอบไอน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มผู้ซื้อว่าไทยเป็นแหล่งผลิตมังคุดที่มีระบบควบคุมคุณภาพที่ดีอีกด้วย

ดันส่งออก “มังคุด”ล็อตแรก 3 ร้อยตัน รับมาตรการใหม่เข้าตลาดญี่ปุ่น

ซึ่งกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นประทับใจในมังคุดอย่างมาก พร้อมกับสั่งออเดอร์เพื่อเข้าไปเปิดตลาดทันที 300 ตัน โดยหลังจากนี้ ก็ได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมโปรโมทมังคุดเพื่อเพิ่มยอดขายในตลาดญี่ปุ่นโดยทันที ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว เชื่อว่ากิจกรรมในวันนี้จะนำไปสู่การขยายการส่งออกมังคุดเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกเป็นหลักพันตันในอนาคตอันใกล้นี้ได้อย่างแน่นอน

ดันส่งออก “มังคุด”ล็อตแรก 3 ร้อยตัน รับมาตรการใหม่เข้าตลาดญี่ปุ่น

ด้านนางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้กล่าวว่ามังคุดถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนอกจากจังหวัดจะเป็นแหล่งผลิตมังคุดจำนวนมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของไทยแล้ว ด้วยพื้นที่ปลูกที่ติดกับเทือกเขาซึ่งเหมาะสมกับการเพาะปลูกมังคุดอย่างยิ่ง ยังทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพสูงและมีรสชาติดีเยี่ยมอีกด้วย  ซึ่งทันทีที่ได้รับการประสานมาจากทูตพาณิชย์ ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทางสำนักงานจึงได้ทำการคัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมในการส่งออก และผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะโดยปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) มาให้พบปะเจรจาการค้ากับผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น

นอกจากเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดภาคใต้จะรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมการส่งออกมังคุดเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นแล้ว การได้รับคำสั่งซื้อมังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราชให้สามารถก้าวเข้าไปปักธงในตลาดญี่ปุ่นได้ในครั้งนี้นั้น ยังถือว่าเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่น่าภาคภูมิใจของจังหวัดอย่างยิ่งอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะทำงานประสานกับทูตพาณิชย์ ประจำประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อหาแนวทางขยายตลาดเพื่อให้สามารถรองรับผลผลิตมังคุดที่กำลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในเดือนหน้าได้ต่อไป