คนเลี้ยงหมูร้อง “เกษตร-พาณิชย์” แก้ปัญหาราคาตกต่ำเร่งด่วน

26 ก.ย. 2566 | 11:18 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2566 | 11:26 น.

คนเลี้ยงหมูวอนกระทรวงเกษตรฯ-พาณิชย์ เร่งแก้ปัญหาราคาหมูตกต่ำด่วนที่สุด หลังกลไกราคาและกลไกตลาดถูกบิดเบือนจากการระบาดหนักของ “หมูเถื่อน” ทำขาดสภาพคล่อง ก่อนแบกขาดทุนไม่ไหวต้องทิ้งอาชีพ

นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี เผยว่า ผู้เลี้ยงสุกรขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ที่เห็นชอบโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร และให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลราคาสุกรอย่างจริงจัง รวมถึงแนวทางการชดเชยดอกเบี้ยเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ปี 2566 เพื่อต่อชีวิตผู้เลี้ยงหมูให้สามารถขายได้ในราคาที่เป็นธรรม

ทั้งนี้ขอให้กรมปศุสัตว์และกรมการค้าภายใน เร่งตั้งคณะทำงานที่มีผู้เกี่ยวข้องจากทุกฝ่ายทั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุกร และผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่ของการจำหน่ายเนื้อสุกรทั้งหมด มาร่วมหารือเพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้เลี้ยงหมู เป็นการด่วน จากขาดเงินทุนหมุนเวียนเป็นเวลานาน หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ผู้เลี้ยงหมูคงต้องเลิกกิจการ

ขณะเดียวกัน ภาครัฐสามารถเร่งดำเนินการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ภายใต้กระทรวงพาณิชย์

นอกจากนี้ Pig Board ยังเห็นชอบให้ขยายผลระบบฐานข้อมูล Big Data ด้านปศุสัตว์ โดยขยายขอบเขตการใช้งานสู่สาธารณะ เปิดโอกาสให้ผู้เลี้ยงสุกรของไทยสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งระบบ สนับสนุนการกำหนดราคาขายสุกรมีชีวิตตามโครงสร้างต้นทุนการผลิต เพื่อประโยชน์สูงสุดของเกษตรกรในการรักษาเสถียรภาพราคา  ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” 

คนเลี้ยงหมูร้อง “เกษตร-พาณิชย์” แก้ปัญหาราคาตกต่ำเร่งด่วน

นายนิพัฒน์  กล่าวอีกว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มตกต่ำหนักขณะนี้ คือ กลไกราคาถูกบิดเบือนเนื่องจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาแทรกแซงตลาด ซึ่งขายในราคาต่ำกว่าหมูไทยมาก ส่งผลให้เกษตรกรขายหมูขาดทุนสะสมต่อเนื่อง ขาดเงินทุนหมุนเวียนอย่างหนัก จำเป็นต้องขายหมูในราคาที่ขาดทุนให้พ่อค้าเพื่อนำเงินมาบริหารจัดการฟาร์มเพื่อให้อยู่รอด

ขณะเดียวกันหลังไทยเริ่มควบคุมโรคระบาด ASF ได้ ผู้เลี้ยงสุกรมีความมั่นใจมากขึ้นในการนำหมูเข้าเลี้ยงหวังสร้างอาหารปลอดภัยและมีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภคของคนไทย แต่ต้องประสบปัญหาหลายด้านต่อเนื่อง เริ่มจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารปรับสูงขึ้นจากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้

ปัจจุบันราคาประกาศหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มเฉลี่ยอยู่ที่ 64-66 บาทต่อกิโลกรัม แต่เกษตรกรขายได้จริงประมาณ 54-60 บาท เท่านั้น ขณะที่ต้นทุนสูงการผลิตประมาณ 80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเกษตรกรพยายามทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดทั้งยอมจับหมูขนาดเล็ก จับหมูออกขายก่อนกำหนด นำไปทำหมูหันและหมูย่าง เป็นต้น เพื่อความอยู่รอด