นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการห้องเย็นที่จัดเก็บเนื้อสุกร ที่บริษัท พิชชามีทกรุ๊ป จำกัด เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ว่า กรมร่วมกับกรมปศุสัตว์ ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เข้าตรวจสอบการจัดเก็บเนื้อสุกร พบว่า มีการนำหมูเข้ามาประมาณวันละ 200 ตัว เข้ามาเป็นหมูซีก
เพื่อมาตัดแต่งส่งตามร้านต่าง ๆ และจากการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ มีการรับซื้อมาจากโรงเชือดที่จังหวัดราชบุรี ส่วนหนึ่งจากลูกเล้าของบริษัทรายใหญ่ ซึ่งมีที่มาที่ไปชัดเจน ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้เลี้ยงและผู้บริโภคว่าไม่มีหมูเถื่อนหรือหมูนำเข้ามาเจือปน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดไปแล้วทั้งหมด 14 ราย ซึ่ง 12 ราย เป็นเรื่องของการไม่แจ้งข้อมูล และได้ดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนอีก 2 ราย ไม่มีใบประกอบอนุญาตห้องเย็น ศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้ว 6 คดี ที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณา
“กรมขอฝากถึงห้องเย็นต่าง ๆ และผู้ประกอบการ ต้องแจ้งข้อมูลตามกฎหมาย ถ้าไม่แจ้งจะมีความผิด เพราะก่อนหน้านี้ มีการระบาดของโรค AFS ส่งผลให้หมูเสียหายไปเยอะ จากนั้นผู้เลี้ยงได้เพิ่มกำลังการเลี้ยงหมูขึ้นมา ตอนนี้หมูกลับเข้ามาอยู่ในภาวะปกติแล้ว ประมาณ 50,000 ตัวต่อวัน และถือว่ามากกว่าปกตินิดหน่อย จะเห็นได้ว่าในช่วงเทศกาลสารทจีน ราคาหมูไม่ได้ขึ้น”
“กรมขอฝากถึงห้องเย็นต่าง ๆ และผู้ประกอบการ ต้องแจ้งข้อมูลตามกฎหมาย ถ้าไม่แจ้งจะมีความผิด เพราะก่อนหน้านี้ มีการระบาดของโรค AFS ส่งผลให้หมูเสียหายไปเยอะ จากนั้นผู้เลี้ยงได้เพิ่มกำลังการเลี้ยงหมูขึ้นมา ตอนนี้หมูกลับเข้ามาอยู่ในภาวะปกติแล้ว ประมาณ 50,000 ตัวต่อวัน และถือว่ามากกว่าปกตินิดหน่อย จะเห็นได้ว่าในช่วงเทศกาลสารทจีน ราคาหมูไม่ได้ขึ้น”