นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังตัวแทนสมาคมเกษตรกรชาวไร่อ้อย 37 แห่งเข้าพบหารือ ว่า เงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ปีการผลิต 2565/66 วงเงิน 8,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลค้างจ่ายให้กับกับชาวไร่อ้อยนั้น
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้ว โดยน่าจะเป็นวันที่ 21 พ.ย.66 นี้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะหาเงินมาจ่ายให้ เพราะติดค้างมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว
ส่วนการขอขึ้นราคาอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท เพื่อนำเข้ากองทุนเพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในระยะต่อไป ครม.ได้ให้นโยบายไปแล้ว โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาว่าจะใช้เงินส่วนไหน รัฐจะเป็นผู้สนับสนุนเหมือนเดิม หรือผู้ก่อให้เกิดมลพิษ จะต้องร่วมรับผิดชอบ ก็ต้องไปหารือกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปอีกครั้ง
แต่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า ปัจจุบันกติกาโลกมีการเพิ่มเงื่อนไขเรื่องสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และสีเขียว การเผาหรือทำลายบรรยากาศ เป็นเรื่องที่ต้องลดลง ก็ต้องปรับตัวให้พร้อม และต้องเริ่มดำเนินการ
สำหรับการประกาศให้นำตาลเป็นสินค้าควบคุม ที่ชาวไร่อ้อยต้องการให้กลับไปใช้ระบบเดิม ภายใต้ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่มีการเปิดเสรีนั้น กระทรวงพาณิชย์เข้าใจและเห็นด้วย แต่ที่ผ่านมา จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะจะมีการปรับขึ้นราคาถึง 4 บาทต่อกก. จึงต้องขึ้นบัญชีควบคุม เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย
และจากนี้ ต้องรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน ก็จะพิจารณา เพราะในหลักการ เห็นว่าไม่ควรเป็นสินค้าควบคุม เมื่อไม่มีปัญหา ก็จะพิจารณาปลดออกให้