นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ฤดูกาลผลิตปี 2566/67 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 และมติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2 โครงการ วงเงินรวมกว่า 44,000 ล้านบาท ได้แก่
1) สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 วงเงิน 34,437 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและราคาตกต่ำ
ทั้งนี้ มีเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จำนวน 4.68 ครัวเรือน และดูดซับปริมาณข้าวเปลือกจากท้องตลาด 3 ล้านตัน โดยมีชนิดข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้
สำหรับข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นข้าวเปลือกที่มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ 2 และสีได้ต้นข้าวไม่ต่ำกว่า 20 กรัม โดยในส่วนข้าวหอมมะลิจะมีเมล็ดข้าวแดงได้ไม่เกินร้อยละ 0.5 (ไม่เกิน 22 เมล็ดใน 100 กรัม) กำหนดวงเงินสินเชื่อต่อตัน ดังนี้
โดยเกษตรกรกู้ได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท สหกรณ์การเกษตรและชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละ ไม่เกิน 5 ล้านบาท กรณีชำระคืนภายใน 5 เดือน โดยรัฐบาลรับภาระในการชำระดอกเบี้ยแทนเกษตรกร
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังพร้อมสนับสนุนค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้เกษตรกรอีก 1,500 บาทต่อตัน
ระยะเวลาจัดทำสัญญาตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กรณีภาคใต้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 จนถึง 31 กรกฎาคม 2567 สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อย สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีได้ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
และ 2) สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เป้าหมายรวบรวมปริมาณข้าวเปลือก 1 ล้านตัน โดยสหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก และเกษตรกรทั่วไป ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถขอสนับสนุนสินเชื่อ ดังนี้
ส่วนที่เหลือรัฐบาลรับภาระชำระแทน ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 กันยายน 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศหรือ Call Center 02 555 0555