เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท.

15 ธ.ค. 2566 | 09:44 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2566 | 09:45 น.

“เพิก” ว่าที่ประธานบอร์ด คนใหม่ กยท. เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท. พร้อมเผยขั้นตอน กระบวนการรับซื้อยาง เพื่อผลิตยางรถยนต์ป้อนหน่วยงานราชการ และขายตลาดทั่วโลก หวังดูดซับยางในไทยปีละ 4.2 แสนตันต่อปี สูงสุด 1 ล้านตัน ดันราคายางมีเสถียรภาพ

นายเพิก เลิศวังพง คณะทำงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการบริหารยางพารา  และว่าที่ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย  (ประธานบอร์ด กยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า จากที่ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมด้านราคายางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยไม่ต้องโค่นยางพาราไปปลูกพืชอื่น

เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท.

ทั้งนี้ให้การยางแห่งประเทศไทยจับมือภาคเอกชนผลิตยางรถยนต์ที่มีคุณภาพใช้ในหน่วยงานของราชการ รวมถึงการส่งออกขายทั่วโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกร ชาวสวนยาง และให้ กยท.กำหนดแนวทางความร่วมมือที่จะซื้อน้ำยางหรือยางแผ่นจากเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ยางพารามีราคาสูงขึ้นโดยการทำการตลาดนำการผลิต ล่าสุด กยท.ได้มีดีลกับ บริษัทหวาอี้ กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจีนให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์เพื่อการดังกล่าว

 

เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท.

รวมถึงการหาตลาดต่างประเทศและนำเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคายาง ทั้งนี้ กยท.ได้ดำเนินการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจัดทำแนวทางการบริหารดำเนินงานยางล้อ กยท.เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยมีเป้าหมายดูดซับยางในประเทศ 4.2 แสนตันต่อปี และจะขยับเป้าสูงสุด 1 ล้านตันต่อปี

นายเพิก กล่าวถึงวิธีการดำเนินงาน กยท.จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการพิจารณาจัดทำโครงการเพื่อจัดทำรายละเอียดการดำเนินงานโครงการแล้วนำเสนอต่อคณะกรรมการ กยท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อจะนำผลผลิตจากเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร 18 ล้านครัวเรือน เข้ามาสู่การบริหารจัดการวัตถุดิบให้กับโรงงานยางล้อ ดังนี้

เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท.

1.กยท.ประสานความร่วมมือกับโรงงานผลิตยางล้อ ในการสนับสนุนการจัดการบริหารวัตถุดิบยางตามความต้องการภายใต้โครงการชะลอการรับซื้อยาง หรือจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผ่านตลาดกลางยางพารา กยท.

2. โรงงานผู้ผลิตยางล้อ แจ้งความต้องการชนิดยาง มาตรฐานที่กำหนดต่อ กยท.ในแต่ละเดือน เพื่อดำเนินการจัดการและแปรรูปยางแท่งตามมาตรฐานที่กำหนด

เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท.

3.กยท.จัดหาวัตถุดิบผ่านตลาดกลางยางพารา กยท.ในระบบ TRT (Thai rubber Trade) ในการระบุแหล่งที่มาสินค้า มาตรฐานตามโรงงานผู้ใช้ปลายทางที่กำหนด

4.กยท.ดำเนินการแปรรูปผ่านโรงงานของ กยท. (โรงงาน 4,5 และ 6) โรงงานสถาบันเกษตรกร หรือโรงงานภาคเอกชนที่ผลิตตามมาตรฐานยางล้อที่กำหนด และ 5. กยท.ส่งมอบยางแปรรูปให้กับโรงงานผู้ผลิตยางล้อ และชำระเงินตามโครงการให้กับ กยท.

 

“การผลิตยางล้อ ของ กยท. ก็จะดำเนินการส่งมอบให้กับลูกค้า ก็จะเป็นหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน จะเป็นลูกค้าของ กยท. ทั้งในส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น และทหาร ซึ่งรถยนต์แต่ละคันมีอายุใช้ล้อยางประมาณ 2-3 ปี ก็จะต้องเปลี่ยนใหม่ ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับคือ 1.รักษาเสถียรภาพราคายาง ลดการพึ่งพาตลาดโลก โดยเพิ่มการใช้ยางในประเทศ ทำให้ยางพาราของสถาบันเกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายที่ชัดเจน 2.มียางล้อที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสมเพื่อตอบสนองผู้มีรายได้น้อย และ 3.สร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมยางพาราของประเทศไทย

เปิดตัว “หวาอี้ กรุ๊ป” รัฐวิสาหกิจจีน ดีลใหม่ กยท.

อนึ่ง โรงงานผลิตยางล้อ บริษัท หวาอี๊ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลสำนักทอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง มีทุนจดทะเบียนบริษัท 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้ลงทุนก่อสร้างผลิตล้อยางในนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง โครงการใหม่นี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตของตัวเอง มีปริมาณการผลิตยาง TBR 3 ล้านชิ้นต่อปี และยาง OTR 1 แสนชิ้นต่อปี โดยใช้แบรนด์สินค้า “Double Coin” และ “warrior” ที่มีชื่อเสียงระดับโลก