วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2565/2566 และ ราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/2567 เป็นรายเขต 9 เขต ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ
สำหรับการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2565/2566 เป็นรายเขต 9 เขต โดยเขตมีอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศ ดังนี้
ส่วนการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/2567 ทั้ง 9 เขตคำนวณราคาอ้อยเป็นราคาเดียวทั่วประเทศ ดังนี้
นายชัย กล่าวว่า การประกาศราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2565/2566 ในอัตรา 1,197.53 บาทต่อต้น เมื่อเทียบกับราคาต้นฤดู 1,080 บาทต่อตัน ซึ่งราคาปลายฤดูสูงกว่าราคาต้นฤดู 117.53 บาท ซึ่งผลผลิตต่อปีประมาณปีละ 113 ล้านตัน
ดังนั้นจะทำให้ราคาขั้นสุดท้ายที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอครั้งนี้ จะทำให้ชาวไร่อ้อยได้รับเงินเพิ่มขึ้นทั้งหมด 13,280 ล้านบาท ซึ่งรมว.อุตสาหกรรม แจ้งว่า โรงงานน้ำตาลได้ทยอยจ่ายเงินเพิ่มให้กับชาวไร่อ้อยแล้ว
ส่วนราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/2567 ในอัตรา 1,420 บาทต่อตัน ซึ่งถือว่ามีราคาสูงมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และเมื่อเทียบกับราคาอ้อยขั้นต้นปีก่อน คิดเป็นเงินที่เพิ่มขึ้นกว่า 38,420 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อรายจะมีเงินเพิ่มขึ้นเกือบแสนบาท
ทั้งนี้ที่ประชุมครม. ได้ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งขอความร่วมมือชาวไร่อ้อยลดการเผาอ้อย เพื่อให้ได้เงินจากการผลิตมากขึ้น