ข่าวดี! ครม.เคาะเอกสาร ไทย-บราซิล ยุติข้อพิพาท อ้อย-น้ำตาล ขัด WTO

20 ก.พ. 2567 | 06:47 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.พ. 2567 | 06:53 น.

ข่าวดี! ครม.เห็นชอบการยุติกรณีข้อพิพาทเรื่องอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ภายใต้องค์การการค้าโลก หรือ WTO ระหว่างประเทศไทย และบราซิล เตรียมลงนามเอกสารเร็ว ๆ นี้

วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการยุติกรณีข้อพิพาทเรื่องน้ำตาลภายใต้องค์การการค้าโลก หรือ WTO ระหว่างประเทศไทย และบราซิล ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ

“ตอนนี้ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยที่ได้ยุติข้อพิพาทกับทางบราซิลแล้ว ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ จะมีการลงนามในข้อยุติข้อพิพาทร่วมกัน” นางณัฐฎ์จารี

ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ได้มีการเจรจาข้อพิพาทกับบราซิลมานานหลายปี พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างอ้อย และน้ำตาลทราย พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดมาตรการอุดหนุนที่จะขัดต่อ WTO ทำให้ทางบราซิลได้เห็นถึงความพยายามของไทย จึงได้ข้อยุติในเรื่องนี้เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียดว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้เสนอเอกสารการลงนามข้อยุติ ซึ่งเป้นที่ยอมรับร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลบราซิล ว่าด้วยเรื่องการอุดหนุนสินค้าน้ำตาลของไทย โดยในการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ในช่วงวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ จะมีการลงนามต่อไป 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบราซิลได้ยื่นเรื่องเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทเรื่องการอุดหนุนน้ำตาล เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 โดยกล่าวว่าประเทศไทยได้อุดหนุนระบบน้ำตาลและชาวไร่อ้อย ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้องค์การการค้าโลก ทำให้เกิดผลกระทบต่อการส่งออกน้ำตลาดของบราซิล ที่เป้นผู้ส่งออกน้ำตลาดอันดับ 1 ของโลก 

จากนั้นทั้งสองประเทศได้เจรจากันมานานตั้งแต่ปี 2559 - 2566 ดังนั้นไทยจึงปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ เช่น การยกเลิกระบบโควตา ก ข ค ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2561 โดยไม่กำหนดโควตาส่งออก ถือเป็นการปรับปรุงระบบอ้อยและน้ำตาลทราย ที่เป็นไปตามกลไกตลาด 

รวมทั้งยกเลิกการกำหนดการกำหนดราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศ ด้วยการแก้ไขกฎหมายมาตรา 17 ภายใต้พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 พร้อมปรับแก้ไขการตัดเงินอุดหนุนจากรัฐบาลออกจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เงินชดเชยกับโรงงานน้ำตาลในกรณีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้น จึงไม่มีเงินอุดหนุนจากรัฐบาล

รวมถึงการยกเลิกให้ช่วยช่วยเหลือชาวไร่อ้อย 160 บาทต่อตัน ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2559 และการปรับการอุดหนุนเป็นมาตรการเพื่อสนับสนุนการเกษตรและชนบทของไทย เช่น การศึกษา การวิจัย การปรับปรุงพันธุ์พืช และการลดการเผาอ้อยด้วย