"กรมประมง" สั่งชะลอเก็บค่าธรรมเนียมสัตว์น้ำนำเข้า ออกไปอีก 1 เดือน

แหล่งข่าวจากกรมประมง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (7 มี.ค.67) กรมประมงได้มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ครั้งที่ 3 /2567 มีวาระพิจารณา เรื่อง อัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติสั่งชะลอเก็บค่าธรรมเนียมสัตว์น้ำนำเข้าออกไปอีก 1 เดือน โดยทางผู้ประกอบการ สมาคมต่าง ๆ จะได้มีการหารือนอกรอบใหม่ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด จากที่ประชุมสรุปว่าการเก็บค่าธรรมเนียมยังไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาราคาสัตว์น้ำ เนื่องจากวันนี้ราคาสัตว์น้ำโดยภาพรวมได้ตกต่ำลงอีก 40-60%

“ชาวประมงมีความต้องการเพื่อขายปลาได้ราคา ครอบคลุมต้นทุนที่หามาได้ และมีเหลือบ้างพอได้กิน ได้ใช้ก็รู้สึกมีความสุขแล้ว ไม่ได้ต้องการที่จะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่ม แต่วันนี้ที่เป็นปัญหาคือ ผู้ประกอบการได้นำสัตว์น้ำเข้ามา แล้วไม่ซื้อสินค้าในประเทศ หรือซื้อแล้วกดราคา ทำให้ชาวประมงขายขาดทุน ปัจจุบันราคาปลาบริโภค เท่ากับราคาปลาที่ขายเข้าโรงงานปลาป่น ดังนั้นในที่ประชุมได้มีการเสนอให้ประกาศราคากลางรับซื้อในแต่ละสัปดาห์ว่าราคาปลาแต่ละชนิด ราคาเท่าไรเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว หรือรับซื้อโดยตรง เป็นต้น โดยในวันที่ 8 มีนาคมจะมีการนัดพูดคุยนอกรอบอย่างไม่เป็นทางการ"

ด้าน นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวเห็นด้วยกับกรมประมง ที่มีการจับกุมการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงที่ผิดกฎหมายกว่า 200 คดี ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการค้าสีเทาชะงัก ซึ่งขอฝากให้มีมาตรการยึดทรัพย์และเอาผิดฟอกเงินด้วย เพราะถือเป็นการทำร้ายประชาชน สังคมไทย และทำลายเศรษฐกิจของประเทศ เป็นข้อหารุนแรงมาก หรือส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จัดให้หนัก

“วันนี้ผมมีข้อมูลหลักฐานใครนำเข้ามาไม่ถูกต้อง หรือปลอมแปลงเข้ามา เชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมาตอนนี้เดินมาถูกทางแล้ว และควรให้กรมประมงออกประกาศ ตามมาตรา 92 ของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)ประมง 2558 ให้สินค้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศที่ส่งเข้ามาที่ประเทศไทยจะต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าสัตว์น้ำแบบเดียวกับชาวประมงไทย ถึงจะส่งเข้ามาได้ ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าในสินค้าสัตว์น้ำกับประเทศต่าง ๆ ได้ ปีละหลายหมื่นล้านบาท”

อนึ่ง การแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ผลสืบเนื่องจากกรณีชาวประมงขอให้ภาครัฐพิจารณาแนวทาง หรือมาตรการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ เนื่องจากมีการนำเข้าสัตว์น้ำมาจำหน่ายในประเทศ มีข้อเรียกร้องดังนี้

1. ขอให้หยุดการนำเข้าสัตว์น้ำ
2. ขอให้กำหนดปริมาณสัตว์น้ำที่สามารถนำเข้ามาในประเทศได้ ให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตและความต้องการในประเทศ
3. ขอให้กำหนดมาตรฐานสัตว์น้ำ ที่จะนำเข้ามาให้เป็นมาตรฐานเดียวกับชาวประมงในประเทศ (IUU)
4. ขอให้มีความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำนำเข้า
5. กำหนดอัตราจัดเก็บภาษีนำเข้าสัตว์น้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ทั้งนี้กรมประมงได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว และได้กำหนดแนวทางการดำเนินการ รวมถึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน และเพื่อให้สอดคล้องกับองค์การการค้าโลก (WTO) ที่ได้นิยามสินค้าประมงให้จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ใช่สินค้าเกษตร จึงทำให้ไม่สามารถใช้มาตรการป้องกันพิเศษ (Special Safeguards : SSG) ได้ จึงเป็นที่มาในการพิจารณาเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมนำเข้าสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคระบาดสัตว์ ตลอดจนยังคงยกระดับความเข้มข้นในการปราบปราบสินค้าเถื่อนอย่างต่อเนื่อง