วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย มีการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 โดยในการประชุมครั้งนี้ได้มีการพิจารณาประเด็นปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ของชาวประมงทั่วประเทศ ที่ได้นำเสนอเข้าเป็นระเบียบวาระการประชุม และมีการหารือร่วมกันระหว่างสมาชิกชาวประมงรวม 58 สถาบัน และภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการเปิดการประชุมใหญ่ และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พลิกฟื้นประมงไทยสู่การเป็นเจ้าสมุทรในกติกาสากลโลก”
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา IUU ซึ่งภาคประมงของไทยสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล แต่จากการใช้มาตรการ IUU ทำให้วิถีชีวิตของพี่น้องชาวประมงเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ได้พยายามแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับบริบทของประมงไทย อีกทั้งยังมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาทั้งในเรื่องราคาสินค้าภาคการประมงตกต่ำ ราคาน้ำมัน การนำเข้าส่งออก และการเก็บภาษี เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาทั้งในส่วนของประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ปัญหาให้ตรงจุด และขับเคลื่อนไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องชาวประมง นอกจากนี้จะเร่งรัดให้ตามที่ชาวประมงร้องขอ อาทิ 1.นำเรือออกจากระบบ 1,007 ลำ ที่ใช้งบกว่า 1,800 ล้านบาท ต้องรองบประมาณกำลังผ่านสภา ส่วนเรื่อง สินเชื่อประมง ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมประมงไปเร่งเจรจาหรือหาสินเชื่อที่เหมาะสมเพื่อให้ชาวประมงมีสภาพคล่อง สามารถที่จะดำเนินกิจการประมงได้ไม่ติดขัด และ 3. สัตว์น้ำตกต่ำ จะมีการหารือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอีกครั้งในวันที่ 7 มีนาคมนี้ คาดว่าจะมีผลสรุปออกมาได้
นอกจากนี้ในที่ประชุมสมาคมยังมีการเลือกตั้งประธานและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ประจำปี 2567-2569 (2 ปี) โดยนายมงคล สุขเจริญคณา ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานสมาคมฯ แบบไร้คู่แข่งขัน นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการ 9 คน ได้แก่ 1.นายไตรฤกษ์ มือสันทัด (ส.ปากตะโก), 2.นายพรศักดิ์ แย้มกลิ่น (ส.ระยอง) 3.นายพิชัย แซ่ซิ้ม (ส.สมุทรปราการ) 4.นายสุรเดช นิลอุบล (ส.สงขลา)
5.นายประเสริฐ แต่ช่อ (ส.ประจวบคีรีขันธ์) 6.นายชินชัย สถิรยากร (ส.อวนลากคู่ สมุทรสงคราม) 7.นายสมทรัพย์ จิตตะธัม (ส.ระนอง) 8.นายธนกร ถาวรชินโชติ (ส.แสมสาร) และสุดท้าย นายสฤษฎ์พัฒน์ ภมรวิสิฐ (ส.กันตัง)