นายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ รองเลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ปัญหาหมูเถื่อนยังไม่หมดไปจากประเทศไทย โดยยังซุกซ่อนอยู่ตามท่าเรือและห้องเย็นต่าง ๆ ที่ผ่านมา สมาคมฯ เคยร้องเรียนผ่านนายกรัฐมนตรีให้ทำการตรวจสอบท่าเรือคลองเตย เพื่อเปิดตู้ตกค้างก่อนขบวนการหมูเถื่อนยักย้ายถ่ายเทสู่ห้องเย็นในพื้นที่ปลอดอากรนอกท่าเรือแต่ยังไม่มีรายงานผลการตรวจสอบออกมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ผู้เลี้ยงหมูรอฟังผลการตรวจสอบตู้ตกค้างที่ท่าเรือคลองเตย แต่ทุกอย่างเงียบหายไปจนผิดปกติ จึงอยากขอให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเร่งตรวจสอบ เพื่อดำเนินการทางคดีความ ถ้าพบมีตู้คอนเทนเนอร์หมูตกค้าง มีการสำแดงเท็จ หรือใช้สิทธิทางภาษีผ่านเขตปลอดอากรที่อยู่ระหว่างการขยายผลของ DSI ตามคดีพิเศษที่ 127/2566 ซึ่งคาดว่ายังมีหมูเถื่อนตกค้างอีกหลายตู้คอนเทนเนอร์ หากปล่อยเวลาให้เนิ่นนานเกรงจะเกิดการยักย้ายถ่ายเทหมูออกนอกเขตท่าเรือไปซุกซ่อนตามเขตปลอดอากรและห้องเย็นต่าง ๆ
"สถานการณ์หมูเถื่อนในประเทศไทยยังไม่จบและขณะนี้มีการเร่งทยอยปล่อยของออกสู่ตลาด เนื่องจากหมูเถื่อนทั้งหมดที่นำเข้ามาตั้งแต่ปี 2565 และยังไม่ถูกจับกุมนั้นจะหมดอายุในสิ้นปีนี้ เป็นอันตรายซ้ำสองสำหรับผู้บริโภค ขณะที่การทยอยปล่อยของใกล้หมดอายุนี้เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำลงต่อเนื่อง ซ้ำเติมความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ต้องเผชิญภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่องมากว่า 12 เดือน"
สำหรับ แนวทางในการแก้ปัญหาราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำ คือตัดวงจรการเลี้ยงก่อนที่ราคาจะตกต่ำไปมากกว่านี้ หนึ่งในนั้นคือ โครงการหมูหัน 4.5 แสนตัว ที่จะทยอยตัดยอดลูกหมูออกมาวันละ 5,000 ตัว ซึ่งขอวิงวอนผู้ประกอบการปรุงหมูหันจำหน่ายราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นการบริโภค ช่วยเกษตรกรอีกทาง
“เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ยังไม่พ้นปากเหว การตัดวงจรการเลี้ยงด้วยโครงการหมูหัน เป็นอีกทางที่จะสร้างสมดุลดีมานด์ซัพพลาย จึงอยากขอร้านอาหารที่จำหน่ายเมนูหมูหัน จัดราคาโปรโมชั่น กระตุ้นการบริโภคอีกทาง ขณะเดียวกันขอวอนให้ DSI เร่งรัดดำเนินคดีหมูเถื่อนทุกคดีให้ถึงที่สุด ขุดรากถอนโคนขบวนการหมูเถื่อนที่คาราคาซังมาเป็นปีให้จบลงโดยเร็ว” นายสัตวแพทย์วรวุฒิ กล่าว