นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะลงพื้นที่วันนี้ (6 พ.ค.) เพื่อตรวจสอบ ข้าวสาร ในสต็อกของรัฐบาลตาม โครงการรับจำนำ ที่ บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 ต.เฉลียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ โดยนำตัวอย่างข้าวที่เก็บอยู่ในโกดังคลังกิตติชัย หลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มาหุงทั้ง 2 โกดัง และรับประทานกับสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้อง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ได้พาพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัยว่า ข้าว 10 ปียังสามารถหุง มีกลิ่น มีคุณภาพดีอยู่หรือไม่ร่วมกับสื่อมวลชนทั้งหมด ซึ่งได้ข้าวจากโกดังกิตติชัย ที่มีข้าวอยู่ 112,711 กระสอบ และที่โกดังพูนผล 32,879 กระสอบ รวมประมาณ 150,000 กระสอบ มาหุงรับประทานร่วมกับกับข้าว คือ ผัดกะเพราไก่ไข่เจียว
นายภูมิธรรมยังกล่าวด้วยว่า หากสิ้นข้อสงสัย ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จะเปิดประมูลสาธารณะให้ทุกคนที่มีสิทธิ์ เข้าร่วมในโครงการประมูลได้ คาดว่า ราคากลางจะอยู่ที่ 18 บาท/กก. ซึ่งราคาประมูลจะมากน้อยอยู่ที่กระบวนการ โดยจะป้องกันไม่ให้มีการละทิ้งข้าว คาดว่าจะจัดอันดับผู้ประมูลอันดับ 1-5 และมีมาตรการที่เข้มข้นหากประมูลไปแล้วไม่สามารถเอาไปได้ จะมีการปรับและเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา โดยให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเสนอให้ชัดเจน ซึ่งข้าว 2 โกดังนี้เป็นข้าว 2 โกดังสุดท้ายของโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 2556/57 ร่วม 10 ปี ที่เข้าสู่โครงการจำนำข้าวในช่วงนั้น
“ทั้งนี้ ถ้าดูทางกายภาพ เมล็ดข้าวยังมีจมูกข้าว ยังดูสวยงาม สีสันอาจมีความเหลืองมากขึ้นซึ่งเป็นธรรมชาติของข้าวอายุ 10 ปี เรากำลังมาเคลียร์เอาเงินเข้ารัฐ คาดว่าจะได้เงินประมาณ 200-400 ล้านบาท กลับเข้ามาโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องมาจ่ายคืนค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ คืนเข้ารัฐ”
รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวต่อไปว่า "ครั้งที่แล้ว มีคนบอกว่า ไม่จริง เป็นการจัดฉาก ข้าวจริง 5 ปีก็เน่าแล้ว ซึ่งข้าว 5 ปี หรือ 2 ปีก็เน่าได้ ถ้าไม่เก็บรักษาอย่างดี แต่ที่เห็นมีการเข้าออกอย่างเคร่งครัด ไม่มีน้ำรั่วที่ทำให้ข้าวเสียหาย มีการรมยา ที่โกดังกิตติชัยรมยาทุก 2 เดือน ที่โกดังพูนผลรมยาทุกเดือน เป็นไปตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีเซอร์เวย์เยอร์ที่ลงทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศที่ได้รับมาตรฐานเพื่อความโปร่งใสชัดเจนให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย สะสางโครงการจำนำข้าวใน 2 โกดังสุดท้าย ให้สิ้นสงสัยจบกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนต่างๆ"
จากนั้น นายภูมิธรรมได้ให้ผู้สื่อข่าวและผู้เข้าร่วมทุกคนได้ชิมข้าวพร้อมกับผัดกระเพราและไข่เจียว โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากร่วมชิมด้วย หลายคนบอกว่า ยังกินได้ มีความหวานอยู่ โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า กลิ่นหอมอาจจะอ่อนไปนิด แต่ความนุ่มนวลใช้ได้
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกข้าวที่ร่วมชิมมีความเห็นตรงกันว่า คุณภาพและรสชาติยังใช้ได้ ไม่มีแมลงเจาะ หากนำไปขัดเพิ่ม เชื่อว่าตลาดส่งออกยอมรับได้