"ภูมิธรรม" ชู 8 มาตรการดูแลสินค้าแก้ปัญหาล้นตลาด ดึงเอกชนรับซื้อ 3.13 แสนตัน

04 มิ.ย. 2567 | 09:08 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2567 | 09:37 น.

“ภูมิธรรม” รับลูกนายกฯ ถกทุกภาคส่วน ชู 8 มาตรการดูแลผลไม้-ผัก-พืช 3 หัว รวม 18 ชนิด แก้ปัญหาสินค้าล้นตลาด ดึงเอกชนรับซื้อ 3.13 แสนตัน ดันผลผลิตราคาดีทั้งปี

วันที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 15.30 น.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังการประชุมขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้และพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ปี 2567 โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้แทนเอกชนกว่า 10 กลุ่ม ธุรกิจ 20 เครือ 18 บริษัท อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล ผู้ผลิตสินค้า ค้าปลีก-ค้าส่ง โรงแรม หมู่บ้าน-คอนโด ปั้มน้ำมัน สายการบิน แพลตฟอร์ อุตสาหกรรมแปรรูป-ส่งออก และนิคมอุตสาหกรรม และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมด้วย ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ทุกหน่วยงานได้รับข้อสั่งการจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ดำเนินการเชิงรุก ดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ควบคู่ไปกับพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ รวมไปถึงสินค้าอาหารที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน

สำหรับมาตรการดูแลพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ได้กำหนดมาตรการบริหารจัดการผ่าน 8 กลไก ได้แก่

  1. การกระจายออกนอกแหล่งผลิต
  2. การเชื่อมโยงต้นทาง-ปลายทาง
  3. การทำสัญญาข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้า
  4. การผลักดันส่งออก
  5. การส่งเสริมการแปรรูป
  6. การรณรงค์บริโภค
  7. การสนับสนุนบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง
  8. ความร่วมมือหน่วยงานพันธมิตร

 

\"ภูมิธรรม\" ชู 8 มาตรการดูแลสินค้าแก้ปัญหาล้นตลาด ดึงเอกชนรับซื้อ 3.13 แสนตัน

 

ทั้งนี้ ได้มีการนำร่องดูแลพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ได้แก่ ผลไม้ ผัก พืช 3 หัว (หอมใหญ่ กระเทียม หอมแดง) โดยจะร่วมมือจากภาคีเครือข่ายภาคเอกชนยักษ์ใหญ่กว่า 10 กลุ่มธุรกิจ 20 เครือ 18 บริษัท ซึ่งจะช่วยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร รวมปริมาณกว่า 313,000 ตัน เพิ่มเติมจากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดเป้าหมายการบริหารจัดการไว้ ปริมาณ 1.344 ล้านตัน รวมปริมาณทั้งสิ้น 1.657 ล้านตัน

และยังมีภาคเอกชนรายใหญ่อื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อช่วยรับซื้อเพิ่มเติมในอนาคต ส่วนสินค้าผลไม้ จะมีการติดตามสถานการณ์ด้านการผลิต และการตลาดผลไม้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลไม้ภาคใต้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง และภาคเหนือ ได้แก่ ลำไย ลองกอง ที่จะออกสู่ตลาดมากในระยะต่อไปกว่า 3 ล้านตัน

สำหรับปี 2567 ผลผลิตผลไม้ได้ออกสู่ตลาดเกินกว่าครึ่งทางแล้ว ราคาดีทุกตัว ไม่มีปัญหาราคาตกต่ำ เป็นผลจากที่กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกำหนดมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2567 ไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด รวมถึงการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางไปเจรจาเรื่องด่านกับรัฐบาลจีน ในช่วงก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด ส่งผลให้ภาคการส่งออกมีความคล่องตัว ไม่ติดขัด

ในปี 2567 พืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง มีจำนวน 18 ชนิด คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 7.5 ล้านตัน แยกเป็นผลไม้ 11 ชนิด ได้แก่

  • ทุเรียน
  • มังคุด
  • เงาะ
  • ลองกอง
  • ลำไย
  • สับปะรด
  • ลิ้นจี่
  • ส้มโอ
  • ส้มเขียวหวาน
  • มะยงชิด
  • มะม่วง

ผัก 4 ชนิด ได้แก่

  • มะนาว
  • มะเขือเทศ
  • ฟักทอง
  • พริกขี้หนูจินดา

พืชสามหัว 3 ชนิด ได้แก่

  • หอมแดง
  • หอมหัวใหญ่
  • กระเทียม