มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

19 มิ.ย. 2567 | 06:06 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มิ.ย. 2567 | 06:06 น.

มหากาพย์ “จำนำข้าว” ยังไม่จบ วงใน “นบข.” เผยมีชาวนาเมืองพิจิตรตกหล่น ยังไม่ได้รับเงินเกือบ 40 ล้านบาท มานาน 18 ปี สั่ง อคส.หารือสำนักงบฯ เร่งหาข้อยุติโดยเร็ว ตั้งปลัดพาณิชย์ เป็นแม่งาน ด้าน “ปุ๋ยคนละครึ่ง” คืบ อธิบดีกรมการข้าวลุยตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาปุ๋ย-ชีวภัณฑ์

รายงานข่าวเผยว่าองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะหน่วยปฏิบัติโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2548/49 (สมัยรัฐบาลทักษิณ) ได้มีหนังสือถึงกรมการค้าภายใน ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)เพื่อขออนุมัติจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดพิจิตรที่ได้รับความเดือดร้อนจากยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวเปลือกมานานกว่า 18 ปี จำนวน 464 ราย คิดเป็นมูลค่า 39.66 ล้านบาท แบ่งเป็นข้าวเปลือกเจ้า 83.351 ตัน มูลค่า 565,839 บาท และข้าวเปลือกหอมจังหวัด 4,963.620 ตัน มูลค่า 39.09 ล้านบาท โดยขอให้ นบข.อนุมัติงบประมาณเพื่อจ่ายเยียวยาให้เกษตรกรดังกล่าว

 

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

แหล่งข่าวจากที่ประชุม นบข. เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า องค์การคลังสินค้า ได้มีคำสั่ง อคส.ลับ ที่ 43/2565 ลงวันที่ 20 เมษายน 2565 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้แทนเกษตรกรร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บริหาร เรื่องสิทธิโดยชอบธรรมขอให้ออกใบประทวนสินค้าให้เกษตรกรที่เดือดร้อนและเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2548/49 จังหวัดพิจิตร กรณีเกษตรกรนำข้าวเปลือกหอมจังหวัด และข้าวเปลือกเจ้า มาส่ง ณ โรงสีบริษัทก้องเกียรติการเกษตร (1998) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2548 ก่อนที่โรงสีจะได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกกับ อคส.

 

ตามสัญญาเลขที่ ขป.อคส.พจ.46/2548 วันที่ 17 มกราคม 2549 ซึ่งในวันนั้น อคส.ได้มีหนังสือขอให้ทางจังหวัดพิจิตรตรวจสอบ พบว่าเกษตรกรได้นำข้าวเปลือกมาเข้าร่วมโครงการกับบริษัทจริงและยังไม่ได้รับใบประทวนสินค้า 470 ราย (ปัจจุบันมี 464 ราย) จึงสั่งให้บริษัทรับฝากข้าวเปลือกจากเกษตรกร และในระหว่างที่ อคส.จะออกใบประทวนสินค้าให้กับเกษตรกร ก็ได้ทราบข่าวว่าบริษัทดังกล่าวมีการขนย้ายข้าวสารนำไปปรับปรุงที่โกดังของบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด จังหวัดปทุมธานี

 

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

ในขณะนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2549 ว่า ไม่สมควรที่จะออกใบประทวนให้ และทางบริษัทฯ ก็ยอมรับว่าได้ขายข้าวให้กับบริษัทพงษ์ลาภไปหมดแล้ว และได้รับเงินแล้ว แต่ไม่จ่ายเงินให้เกษตรกร ล่าสุดสถานะบริษัทได้ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว เป็นคดีหมายเลขแดง ที่ ล.3372/2556 ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2562

 

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

ทั้งนี้ที่ประชุม นบข.ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้มีมติให้ อคส.ไปหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามข้อระเบียบกฎหมาย หากเห็นว่าควรเยียวยาให้จัดทำหลักเกณฑ์ที่มีระเบียบและข้อกฎหมายรองรับและประสานหน่วยงานตรวจสอบเพื่อขอความเห็นและข้อเสนอแนะด้วย นอกจากนี้ที่ประชุมได้มอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ดำเนินคดีแทนทุกคดี และในทุกขั้นตอนจนคดีถึงที่สุด รวมทั้งให้มีอำนาจในการมอบอำนาจช่วงได้ด้วย

 

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

ขณะเดียวกันในการประชุม นบข.ครั้งล่าสุด ผู้แทนจากสมาคมส่งออกข้าวไทย ได้ให้ความคิดเห็นอย่างน่าสนใจ ในเรื่องโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 โดยสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ปุ๋ยคนละครึ่ง โดยรัฐช่วยเหลือค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ไม่เกิน 500 บาท/ไร่) โดยคำนวณเต็มจำนวนไร่ เหลือเศษไร่ปัดทิ้ง

“โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง มีเป้าหมายชาวนา 4.68 ล้าน ครัวเรือน มีปุ๋ย 16 สูตรให้เลือกอาทิ สูตร 25-7-14 และปุ๋ยสูตร 20-8-20 เป็นต้น เรื่องนี้มีคำถามว่า ทำไมไม่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีเกษตรกรเลย ซึ่งทางอธิบดีกรมการข้าวได้ชี้แจงว่าถ้าจ่ายในรูปแบบเดิมไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรได้ ในทางตรงกันข้ามจะทำให้พฤติกรรมและศักยภาพของเกษตรกรอ่อนแอลงและเป็นภาระด้านงบประมาณของประเทศไม่สิ้นสุด ทั้งนี้ทางกรมการข้าวจะมีการประกาศรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบกิจการปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ในประเทศและแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาปุ๋ยและชีวภัณฑ์ โดยมีนายอานนท์ นนทรี รองอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธานต่อไป” แหล่งข่าวกล่าว

 

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

 

ด้านนายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลทำโครงการปุ๋ยคนละครึ่งผ่านสมาคมฯ จะแจ้งสมาชิกให้กำหนดราคาขายไม่เอากำไรจากเกษตรกรมากนัก แต่ถ้าไปซื้อผ่านร้านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ที่มีของขายอยู่แล้วเกษตรกรต้องไปขนปุ๋ยกันเอาเอง ในเรื่องนี้เสนอแนะให้เลียนโมเดลกระทรวงพาณิชย์ลดราคาปุ๋ย คือให้ใช้ยี่ห้อ/แบรนด์ของแต่ละบริษัท ให้สั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกร และให้ตรวจเข้มเรื่องคุณภาพ เพื่อป้องกันปุ๋ยที่ไม่มีคุณภาพเข้าร่วมโครงการ

 

อ้างอิง เลียนโมเดลโครงการกระทรวงพาณิชย์ลดราคาปุ๋ย

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

 

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

มหากาพย์จำนำข้าวโผล่อีก ชาวนาพิจิตรรอ 18 ปี ยังไม่ได้เงิน 40 ล้าน

 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,002 วันที่ 20-22 มิถุนายน พ.ศ. 2567