วันที่ 21 มิถุนายน 2567 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาชิกผู้ประกอบการขนส่ง 12 สมาคม มีมติปรับขึ้นราคาขนส่ง 9% ว่า กรมได้มีการพูดคุยและหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และยังคงให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าอยู่ และพร้อมบริหารจัดการต้นทุนให้มากที่สุด
โดยกรมฯ ให้ความสำคัญในการติดตามดูแลราคาสินค้า อุปโภค-บริโภคอย่างใกล้ชิด ทั้งสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าควบคุมและสินค้าที่ต้องติดตาม เช่น สินค้า 18 หมวด และสินค้าที่นอกเหนือจากนี้ ซึ่งปัจจุบันยังขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอยู่ หรือหากมีผู้ประกอบการจะขอปรับขึ้นจากเหตุปัจจัยค่าขนส่ง ก็ยังต้องพิจารณาเป็นรายสินค้าไป
“การปรับขึ้นราคาสินค้านั้น แต่ละรายการมีต้นทุนค่าขนส่งไม่เท่ากัน ทั้งชนิดของรายการสินค้าประเภทของผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งจะต้องมีการพิจารณา คำนวณต้นทุนที่ไม่เหมือนกัน และต้องดูทั้งต้นทุนทางตรงและทางอ้อมด้วย ทั้งนี้ ยังต้องดูว่าตอนนี้มีการปรับขึ้นค่าขนส่งไปแล้วจริงไหมขึ้นเท่าไร โดยเราจะไม่เพิกเฉยดูแลทุกสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อค่าครองชีพ”
อย่างไรก็ดี กรมฯ พร้อมดูแลติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายผู้ประกอบการอยู่ได้ ประชาชนก็ต้องไม่ได้รับผลกระทบ เพราะนโยบายกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในการดูแลทุกฝ่าย อีกทั้งปัจจัยนี้อยู่ในส่วนของต้นทุนพลังงานก็จำเป็นต้องดู กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลต่อไป
ส่วนกรณีมาตรการตรึงการจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (LPG) ของภาครัฐที่จะสิ้นสุดเดือนมิถุนายน2567 นี้ ปัจจุบันกรมยังขอความร่วมมือร้านอาหารในการตรึงราคาสินค้าจานด่วนอยู่ และพบว่าต้นทุนวัตถุดิบในหลายรายการปรับลดราคาลง อาทิ ไก่ หมู เนื่องจากตอนนี้อากาศดีขึ้น ฝนตกมากขึ้นทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบราคาสินค้าในปัจจุบัน พบกลุ่มสินค่าที่มีการปรับราคาลดลง ดังนี้