นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าโครงการ “ปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง” ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข). ได้มีมติเห็นชอบหลักการโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิตลดต้นทุนการผลิตข้าวแก่เกษตรกร โดยจะสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2567/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 29,994.3445 ล้านบาท
ล่าสุดได้ทราบข่าวจากรัฐบาลว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ โดยจะให้ทางสมาคมฯร่วมแถลงข่าวกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล สำหรับปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ เป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตาม พ.ร.บ.ปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน มีทั้งหมด 16 สูตรปุ๋ย ได้แก่ ที่กรมการข้าวเสนอ มี 13 รายการ ได้แก่ 1.ปุ๋ยสูตร 25-7-14 2.ปุ๋ยสูตร 20-8-20 3.ปุ๋ยสูตร 20-10-12 4.ปุ๋ยสูตร 30-3-3 5.ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 6.ปุ๋ยสูตร 18-12-6 7.ปุ๋ยสูตร 16-8-8
8.ปุ๋ยสูตร 16-12-8 9.ปุ๋ยสูตร 16-16-8 10.ปุ๋ยสูตร 16-20-0 11.ปุ๋ยสูตร 20-20-0 12.ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ 13.ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย และสมาคมฯขอให้เพิ่มอีก 3 สูตร ได้แก่ 1.ปุ๋ยสูตร 16-16-16 2.ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ 3.ปุ๋ยสูตร 13-13-24 ยังมีปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ ตลอดจนชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย รวมทั้งโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2567 เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย
ทั้งนี้เงื่อนไขโครงการ “ปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง”
1.ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 กับกรมส่งเสริมการเกษตร
2.กรมการข้าวประกาศรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบกิจการปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ในประเทศ
3.กรมส่งเสริมสหกรณ์ประกาศรับสมัครและคัดเลือกสหกรณ์การเกษตรเข้าร่วมโครงการ
4.สหกรณ์การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการ คัดเลือกผู้ประกอบการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เป็นผู้จัดหาปุ๋ยและชีวภัณฑ์
5.สหกรณ์การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการเป็นผู้กระจายปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ
6.การสนับสนุนค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง สนับสนุนค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ในราคาไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ตามพื้นที่ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร
7.เกษตรกรสามารถรับสิทธิ์ และขอรับปุ๋ยและชีวภัณฑ์ได้เพียง 1 ครั้ง
8.กรณีเกษตรกร 1 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกข้าวอยู่หลายที่ (จังหวัด อำเภอ ตำบล) มีสิทธิ์ได้รับการสนับสนุนทุกพื้นที่ แต่พื้นที่รวมกันทั้งหมดต้องไม่เกิน 20 ไร่ โดยคำนวณเป็นตารางวา โดยต้องมีการตรวจสอบผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ
9.ครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้สิทธิ์ได้ถึง 31 พฤษภาคม 2568
10.สหกรณ์การเกษตร ต้องส่งมอบปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกร ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยหากเกษตรกรยังไม่ได้รับปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ธ.ก.ส.จะคืนเงินที่เกษตรกรชำระทั้งหมดให้เกษตรกร
วิธีการดำเนินงาน
1.การขึ้นทะเบียนเกษตรกร
2.จัดหาผู้ประกอบการและสหกรณ์การเกษตรเข้าร่วมโครงการ
3.จัดหาปุ๋ยเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกร
4.ทำฐานข้อมูลจำหน่ายปุ๋ย
5.การตรวจสอบสิทธิ์ การขอใช้สิทธิ์ชาวนา
6.การส่งมอบปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกร
7.การสุ่มตรวจคุณภาพ
8.การโอนจ่ายค่าเงินปุ๋ยของเกษตรกรและสมทบจากรัฐบาล