รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (25 มิ.ย. 2567) นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 1/2567 ขึ้น เพื่อติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงานด้านเทคโนโลยีชีวภาพภายใต้ภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตามที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายกำหนดแนวทางการพัฒนาสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม สู่การใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุม เพื่อจัดทำร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง “การขอรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม เพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร พ.ศ. 2567” เพื่อรับรองการพัฒนาพันธุ์พืช สัตว์ ประมง จากเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม คาดจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 และสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ทันต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568
ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง “การขอรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม เพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร พ.ศ. 2567” กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ จะดำเนินการจัดทำประกาศของแต่ละหน่วยงาน ในการกำหนด หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการขอหนังสือรับรองสิ่งมีชีวิตที่ได้จากเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม
กรณีพืช ให้ยื่นคำขอต่อกรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด กรณีสัตว์น้ำ ให้ยื่นคำขอต่อกรมประมง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายที่กรมประมงกำหนด กรณีสัตว์ ให้ยื่นคำขอต่อกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ กรมปศุสัตว์กำหนด
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เพื่อขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย ในภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วและรุนแรง ซึ่งสหประชาชาติ ได้ประกาศว่า “ยุคโลกร้อนสิ้นสุดลง ยุคโลกเดือดมาถึงแล้ว” ภาวะดังกล่าวก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชอุบัติใหม่ที่สำคัญ อาทิ โรคใบด่างมันสำปะหลัง โรคใบร่วงยางพารา การแพร่ระบาดของแมลงในข้าวโพด มันสำปะหลัง
ประกอบกับจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก ปัจจุบันเทคนิคการปรับปรุงพันธุ์ใหม่ (New Breeding Techniques: NBTs) มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing, GEd) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ให้การยอมรับ ว่าไม่ใช่การพัฒนาโดยการตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMOs แต่เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้พืชมีลักษณะดีตรงตามความต้องการอย่างรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับการปรับปรุงพันธุ์พืชแบบดั้งเดิม จัดเป็นนวัตกรรมการเกษตร ที่สามารถเพิ่มปริมาณผลผลิต หรือรองรับการแก้ปัญหาด้านการเกษตร อาทิ ภัยแล้ง น้ำท่วม หรือการระบาดของโรคและศัตรูพืช
ในส่วนของกรมวิชาการเกษตร ได้มีการจัดประชุมร่วมกับ FAO ว่าด้วยเรื่อง สนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร (International Treaty on Plant Genetic Resources for Food and Agriculture: ITPGRFA) ซึ่ง ITPGRFA จะอนุญาตให้เข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืช เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เพื่อปรับปรุงพันธุ์ และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรพันธุกรรมพืช
หากประเทศไทยเข้าร่วมในสนธิสัญญานี้ จะเกิดประโยชน์ในการปรับปรุงพันธุ์พืช และการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืช ทำให้นักขยายพันธุ์พืชและเกษตรกรมีโอกาสใช้พันธุ์พืชที่พัฒนามาจากเชื้อพันธุกรรมพืช ที่มีความหลากหลาย และเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อม สามารถเข้าถึงพันธุกรรมพืชของต่างชาติได้สะดวก จะเป็นการส่งเสริมการปรับปรุงพันธุ์ และเพิ่มโอกาสในการสร้างพืชพันธุ์ดีและหลากหลายสำหรับเกษตรกร
สอดรับการพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ด้วยเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะเร่งดำเนินการออกประกาศ กรมวิชาการเกษตร เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับหนังสือรับรองพืช สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และจุลินทรีย์ทางการเกษตรที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม พ.ศ. 2567 ให้สอดรับกับประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เป็นแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd ของประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์