นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาผักสดในตลาด ทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกในส่วนกลางและภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม 2567 ส่งผลให้ผักบางชนิดมีการปรับตัวสูงขึ้น อาทิ กวางตุ้ง ผักกาดขาว ต้นหอม ผักชี
และยังมีพายุเข้า ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ ส่งผลให้ผลผลิตผักใบที่ปลูกมากในจังหวัดเหล่านี้ได้รับความเสียหาย ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง
โดยจากการติดตามสถานการณ์การซื้อขายผักในตลาดกลางสินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง พบว่า ยังมีสินค้าพืชผักเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง แต่ปริมาณผักบางชนิดจากแหล่งผลิตที่ถูกกระทบจากฝนตกชุกและน้ำท่วม มีปริมาณลดลงเล็กน้อย แต่ปริมาณผักไม่ได้มีปัญหาขาดแคลนแต่อย่างใด เพราะยังมีผักจากแหล่งผลิตอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฝนชุกหรือน้ำท่วมที่เข้ามาทดแทน โดยเฉพาะจากโซนภาคกลางตอนล่าง
อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่หาซื้อผักสดได้ยาก กรมได้ทำการเชื่อมโยงผลผลิตพืชผักชนิดต่าง ๆ จากแหล่งผลิตในโซนภาคกลาง
และตลาดกลางสินค้าเกษตร ไปจำหน่ายสู่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาประหยัด ผ่านช่องทางรถ Mobile พาณิชย์ ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และเปิดจุดจำหน่าย ณ แหล่งชุมชน เคหะชุมชน หมู่บ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย
ทั้งนี้ กรมฯ ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานกาณ์ปริมาณและราคาผักอย่างใกล้ชิด กรณีจังหวัดประสบปัญหาผักขาดแคลนหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค หรือสถานการณ์ด้านราคามีแนวโน้มจะมีปัญหา จะให้เชื่อมโยงผักจากแหล่งผลิตไปจำหน่ายในพื้นที่เพิ่มเติมในราคาประหยัด โดยสามารถดำเนินการได้ทันที
และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยขอให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด
หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท และหากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด