วันที่ 29 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ประสบอุทกภัย ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณามาตรการฟื้นฟูผลกระทบจากน้ำท่วม ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ในพื้นที่ ๆ ประสบอุทกภัย นอกเหนือจากการดูแลสถานการณ์ราคาสินค้า ไม่ให้ขาดไม่ให้แพง
ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาแนวทางช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ประชาชน ผู้ประกอบการ ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การประสานห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น เปิดพื้นที่ให้นำสินค้ามาจำหน่าย เพื่อช่วยระบายสินค้า และเพิ่มรายได้ และการเปิดพื้นที่ให้จำหน่ายสินค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดโครงการธงฟ้า นำสินค้าจำเป็นไปจำหน่าย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ และจะให้พื้นที่กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ ได้นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายด้วย
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการดูแลสินค้าเกษตร ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เข้าไปติดตามสถานการณ์การผลิต การจำหน่าย โดยหากพื้นที่ใด มีปัญหา ก็จะประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อทันที เพื่อป้องกันเกษตรกรถูกกดราคา และโดนเอารัดเอาเปรียบ
ส่วนประชาชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้นำแฟรนไชส์เข้าไปช่วยสร้างอาชีพ เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการมีอาชีพ มีรายได้ สามารถซื้อแฟรนไชส์ได้ในราคาถูกกว่าปกติ ทำให้มีธุรกิจทำ และมีรายได้ทันที ขณะที่ผู้ประกอบการ ได้ประสานห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น เปิดพื้นที่ให้นำสินค้ามาจำหน่าย เพื่อช่วยระบายสต๊อก และเพิ่มรายได้
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ทำงานเชิงรุก เตรียมจัดธงฟ้าราคาประหยัด นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ และสินค้าทำความสะอาดบ้านเรือน ไปจำหน่ายในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยทันที เมื่อน้ำลด เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และในพื้นที่ ๆ ห่างไกล และเข้าถึงยาก ให้จัดโมบายธงฟ้า นำสินค้าวิ่งเข้าไปจำหน่าย เพื่อดูแลประชาชนให้ครบถ้วน ขณะเดียวกัน ให้ประสานห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น จัดโปรโมชันลดราคาสินค้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 ทางแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด โดยหากตรวจสอบพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ