“อัครา”มอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร สู่ปีที่ 52 ดันงานวิจัย เพิ่มรายได้เกษตรกร

01 ต.ค. 2567 | 10:17 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ต.ค. 2567 | 10:17 น.

“นฤมล” รัฐมนตรีเกษตรฯ มอบหมาย “อัครา”มอบนโยบายวันสถาปนากรมวิชาการเกษตร ก้าวสู่ปีที่ 52 ลุยขับเคลื่อนนำผลงานวิจัย สอดรับนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาล ยันเกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรราคาสูง

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีอ่านสารแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันสถาปนากรมวิชาการเกษตร ครบรอบ 52 ปี ร่วมกับ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และคณะผู้บริหารกรมวิชาการเกษตรให้การต้อนรับ

“อัครา”มอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร สู่ปีที่ 52 ดันงานวิจัย เพิ่มรายได้เกษตรกร

นายอัครา  กล่าวว่า ในปี 2567 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการเกษตรสู่ความสำเร็จ สานต่อนโยบายเดิม 9 ด้าน เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน เพื่อสร้างรายได้ โอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้เกษตรกรไทย สอดรับกับนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีเป้าหมายให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้ภาคการเกษตรไทย

“กรมวิชาการเกษตร” เป็นหน่วยงานที่สำคัญ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นหลักในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย โดยใช้งานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยเฉพาะในปัจจุบันเป็นยุคที่มีความท้าทาย เพราะเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติต่าง ๆ การระบาดของโรค แมลงศัตรูพืชใหม่ ความมั่นคงทางอาหาร ความต้องการอาหารสุขภาพในอนาคต และการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ ในรูปแบบอื่น ๆ

 

กรมวิชาการเกษตร ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยการนำผลวิจัยนวัตกรรม และเทคโนโลยี มาช่วยในการสร้างรายได้ สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิต ให้กับเกษตรกร โดยเน้นการบริหารจัดการภาคการเกษตรที่ครบถ้วนทุกด้าน ตั้งแต่ ดิน น้ำ นวัตกรรมเทคโนโลยี การพัฒนาพันธุ์พืช ตลอดจนการใช้สารชีวภัณฑ์ลดการใช้สารเคมี เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรปลอดภัยมูลค่าสูง ซึ่งเป็นอีกนโยบายที่ต้องการให้ช่วยในการขับเคลื่อน โดยขอให้มีงานวิจัยที่มีการต่อยอด โครงการ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรปลอดภัยมูลค่าสูง (76 จังหวัดสินค้าเกษตรปลอดภัยมูลค่าสูง) รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น เพื่อสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ ให้กับเกษตรกร 3 เท่า ใน 4 ปี

“อัครา”มอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร สู่ปีที่ 52 ดันงานวิจัย เพิ่มรายได้เกษตรกร

สำหรับนโยบายด้านการจัดการทรัพยากรทางการเกษตร เป็นนโยบายจำเป็นที่กรมวิชาการเกษตรต้องเร่งดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำในภาคการเกษตร ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้จัดทำโครงการนำร่องการผลิตถั่วเหลืองที่มีประสิทธิภาพแบบ  Low Carbon ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

 

“อัครา”มอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร สู่ปีที่ 52 ดันงานวิจัย เพิ่มรายได้เกษตรกร

รวมทั้งการจัดตั้งกองวิจัยพืชเศรษฐกิจใหม่ และการจัดการก๊าซเรือนกระจกสำหรับภาคเกษตร เพื่อทำหน้าที่ศึกษาวิจัยและดำเนินงานเกี่ยวกับ การลดก๊าซเรือนกระจกในการผลิตพืช ซึ่งกรมวิชาการเกษตรกำลังดำเนินการเพื่อขอรับรองคาร์บอนเครดิตในพืชเศรษฐกิจหลัก และพัฒนาหน่วยงานจนสามารถเป็นหน่วยตรวจรับรองคาร์บอนเครดิตภายใต้มาตรฐานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)

 

ปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ตรวจประเมินแล้ว จำนวน 31 ราย และมีการศึกษาวิจัยแนวทางการลดปัญหา ฝุ่นควันภาคเกษตรอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อลดการเผาในพื้นที่ปลูกพืช และลดปัญหาฝุ่นควัน ในภาคเกษตร   ตามนโนบาย 3R (Re-Habit/Replace with high Value Crops/ Replace with Alternate Crops) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น การปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชมูลค่าสูง เช่น กาแฟ เพื่อลดการเผาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือ

สอดคล้องกับแผนการลดปริมาณการนำเข้ากาแฟจากต่างประเทศ และเพิ่มมูลค่ากาแฟไทย โดยจัดทำโครงการประกวดสุดยอดกาแฟ ซึ่งได้รับพระกรุณาโปรดเกล้ามอบถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราขเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก นับเป็นวาระสำคัญระดับนานาชาติ ในระดับอาเซียน มีเครือข่ายเสริมสร้างศักยภาพ ในการปรับตัวรองรับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน (ASEAN Climate Resilience Network : ASEAN CRN)

“อัครา”มอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร สู่ปีที่ 52 ดันงานวิจัย เพิ่มรายได้เกษตรกร

เป็นอีกองค์กรที่มีการขับเคลื่อนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง ซึ่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นประธานเครือข่ายเสริมสร้างศักยภาพ ในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน และกำลังเตรียมจัดงาน 10 ปี ASEAN CRN ที่ จ.เชียงใหม่ ในเดือนมกราคม 2568 กรมวิชาการเกษตรควรใช้โอกาสนี้ แลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อน สร้างความร่วมมือ รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและต้นแบบ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรของภูมิภาคอาเซียน

รมช.เกษตร กล่าวอีกว่า ภารกิจที่สำคัญยิ่งอีกด้านของกรมวิชาการเกษตร ที่ต้องการให้มีการพัฒนาการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย คือการสานต่อการทำสงครามสินค้าเกษตรเถื่อน การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า - ส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายด้านพืช รวมถึงการลดขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการด้านการรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับสินค้าส่งออกไปยังต่างประเทศ  เพื่อสนับสนุนการส่งออกซึ่งแต่ละปีมีการขอและออกใบรับรองสุขอนามัยพืช ไม่น้อยกว่า 400,000 ฉบับ มูลค่าการส่งออกไม่ต่ำกว่า 800,000 ล้านบาท

รวมถึงการพัฒนาระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Phyto)  เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ให้เกิดความสะดวกต่อผู้รับบริการ อย่างชัดเจน ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ซ้ำซ้อน อำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตพืช และผลิตภัณฑ์จากพืชเพื่อการส่งออก ให้สามารถทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แบบปลอดภัย และไร้เอกสาร (Paperless) สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้  

ด้านนายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  สำหรับแนวทางในการปฏิบัติภารกิจของกรมวิชาการเกษตร ภายใต้การกำกับดูแลของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในด้านการวิจัย คือการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในงานวิจัย และการให้บริการ เช่นห้องปฏิบัติการในโครงการ DOA Future Lab เพื่อยกระดับห้องปฏิบัติการ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้มีมาตรฐานสากล และการยกระดับการปรับปรุงพันธุ์พืช โดยการใช้เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ในการปรับปรุงพันธุ์พืช (Gene Editing)

“อัครา”มอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร สู่ปีที่ 52 ดันงานวิจัย เพิ่มรายได้เกษตรกร

เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ มีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศและต้านทานต่อโรคและศัตรูอุบัติใหม่ เป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์ และพันธุ์พืชเขตร้อน (Tropical Seed Hub) และมีศูนย์ถ่ายทอดเพื่อสร้างการเรียนรู้ความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ การนำระบบ AI เข้ามาใข้ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการวิจัยเพื่อให้เกิดการนำผลงานไปสู่การปฏิบัติอย่างแพร่หลาย

รวมถึง นโยบายด้านการพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการดำเนินงานตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรี่สินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสับสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาอย่างต่อเนื่อง และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมการจัดงานใต้ร่มพระบารมี 30 ปี ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ เพื่อสนองพระราชดำริและน้อมนำพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด ขยายผลสู่ประชาชนต่อไป