วันนี้ (7 ตุลาคม 2567) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมงาน Business Forum ของการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการเรื่องความมั่นคงทางอาหารให้กับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และให้ดำเนินการเรื่องความปลอดภัยในข้อมูลด้วย โดยจะเสนอให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของ Data Center ให้กับประเทศต่าง ๆ และ ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บใน Data Center ในประเทศไทยจึงจะมีความปลอดภัย และยังสามารถพัฒนาเรื่อง AI ต่อเนื่องได้ด้วย
ทั้งนี้ ได้มีโอกาสพูดคุยหารือกับรัฐมนตรีและผู้แทนของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงศักยภาพด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเทคโนโลยี AI ของไทย ที่บริษัทชั้นนำจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ Amazon, Microsoft และล่าสุด Google ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนสร้างที่เก็บข้อมูลในไทย เนื่องจากจุดแข็งของไทย อาทิ เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีความมั่นคงปลอดภัย ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติต่ำ เป็นต้น จึงป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพและขยายการเจริญเติบโตของ ธุรกิจดิจิทัลและ AI ของไทย
นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเชิญชวนประเทศต่าง ๆ เข้าทาสร้างที่เก็บข้อมูล Data Center ในไทย อาทิ โอมาน และ UAE โดยไทยมีข้อได้เปรียบด้านความมั่นคงปลอดภัย และกฎระเบียบที่นำหน้าในมาตรฐานสากล ตามรายงานล่าสุดของ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA)
อีกทั้งประเทศไทยยังมีจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน Data Center และด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ไทยมีกฎหมายมาตรฐานสูงอย่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และกฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Act)
"จากการสังเกตเห็นว่า ประเทศสมาชิก ACD ที่ได้หารือก็แสดงท่าทีในเชิงบวก พร้อมทั้งชื่นชมไทยที่มีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว จึงจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์ข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน และจะผลักดันประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในการประชุม ASEAN Summit ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์ในสัปดาห์หน้า" นายพิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก บีโอไอ (BOI) ระบุว่า ปัจจุบันมีโครงการ Data Center และ Cloud Service ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในไทย รวมกว่า 46 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 167,989 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง จะเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป