ไทย-ออสเตรเลีย หาช่องดันการค้า ลงทุนเกษตร ตั้งฐาน Data Center

11 ต.ค. 2567 | 09:38 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2567 | 10:10 น.

"พิชัย" รมว.พาณิชย์ หารือ นายกฯออสเตรเลีย หนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจอาเซียน 2583 สอดรับนโยบายรัฐบาลไทย โอกาสทางการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศเติบโต หวังดึงดูดการลงทุนเพิ่มในภูมิภาคอาเซียน

วันนี้ ( 11 ตุลาคม 2567 ) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับ นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย และได้ทราบว่า ออสเตรเลียได้ประกาศยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมถึงปี 2583 ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นการส่งเสริมการลงทุนให้เติบโต รวมถึงการกระตุ้นการลงทุนของนักธุรกิจชาวออสเตรเลียมาสู่ภูมิภาค รวมถึงไทยมากขึ้น

 

ไทย-ออสเตรเลีย หาช่องดันการค้า ลงทุนเกษตร ตั้งฐาน Data Center

 

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การลงทุนของออสเตรเลีย สอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการค้าการลงทุนของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในหลายเรื่อง เช่น ด้านเกษตรและอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร การใช้ไทยเป็นที่ตั้งของ Data Center การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียว

รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าการผลิตแบตเตอรี่ และธุรกิจ BCG การศึกษาและการพัฒนาทักษะแรงงานต่างๆ และเรื่อง Soft Power เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในด้านภาพยนตร์ เกมส์ แอนิเมชัน ศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรม และบริการสุขภาพ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น

นายพิชัย กล่าวเพิ่มว่า ที่ผ่านมามีบริษัทเทคโนโลยีของออสเตรเลียในด้าน AI, เทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัล, เทคโนโลยีทางกฎหมาย, เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีสำหรับนวัตกรรมธุรกิจ ได้พบปะกับนักธุรกิจในไทยและแลกเปลี่ยนความเห็น ประสบการณ์ เกี่ยวกับแนวโน้มตลาด ระบบนิเวศทางเทคโนโลยี และเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย 

“ในการจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าวของออสเตรเลียมีความสำคัญกับประเทศภูมิภาค รวมถึงไทยด้วย ซึ่งเล็งเห็นแล้วว่าเป็นโอกาสทางการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจออสเตรเลีย ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนร่วมกันในสาขาศักยภาพต่างๆ และออสเตรเลียเองก็มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย คาดว่าการค้าระหว่างไทย ออสเตรเลียจะมีความก้าวหน้าขึ้นอีกมาก“ นายพิชัย กล่าว

ปัจจุบันไทยกับออสเตรเลียได้มีการตกลงทางการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) โดยครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง TAFTA  

นอกจากนี้ ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปออสเตรเลียโดยใช้สิทธิประโยชน์ต่อการส่งออกที่ได้รับสิทธิ ในปี 2566 สัดส่วน 60.80% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 3.97% มีสินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับประโยชน์ เช่น รถยนต์และยานยนต์อื่น ๆ (เครื่องดีเซล หรือกึ่งดีเซล) รถยนต์ขนส่งบุคคลความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ลบ.ซม. ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ รถยนต์ขนส่งบุคคลความจุกระบอกสูบเกิน 1,000-1,500 ลบ.ซม. และปลาทูน่า

ขณะที่ การนำเข้า ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากออสเตรเลียที่ใช้สิทธิประโยชน์ต่อการนำเข้าที่ได้รับสิทธิ ในปี 2566 81.71% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 27.42% โดยสินค้านำเข้าจากออสเตรเลียที่สำคัญ เช่น ถ่านหินบิทูมินัส ข้าวบาร์เลย์ อื่น ๆ ส้มแมนดาริน องุ่นสด ไวน์อื่น ๆ ที่ทำจากองุ่นสด และนมและครีม