นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) ครั้งที่ 2/2567 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบัญชาการสอบสวนกลาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟ้องเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อกำหนดแนวทางการกำกับดูแลและป้องปราม รวมถึงสืบสวน สอบสวนหรือตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลและนิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมเป็นนอมินี เพื่อช่วยเหลือให้คนต่างด้าวทำธุรกิจในไทยโดยเลี่ยงปฏิบัติตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ซึ่งมีข้อสรุปในการกำหนดแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น, ระยะกลาง และระยะยาว
ทั้งนี้ แผนงานระยะสั้น ได้มีการแบ่งกลุ่มธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (มอมินี) ออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และกระจายเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเดือนหน้าจะมีการตรวจสอบเชิงรุก นอกจากนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 โดยจะมีการสรุปประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น และรายละเอียดความคืบหน้าอีกครั้ง
นอกจากนี้ ระยะกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า อยู่ระหว่างจัดทำระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคค ที่มีผลต่อการการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย (IBAS) เพื่อจับผิดความผิดปกติของนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินี คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในไม่เกิน 6 เดือน ด้านระยะยาว ให้พิจารณาดูเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า ต้องมีการแก้ไขปรับปรุงอย่างไร โดยเฉพาะจะแก้ไขกฎหมายของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่รับจดทะเบียน กรณีที่บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงตามกฎหมายของปปง. เช่น เป็นอาชญากรข้ามชาติ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัท ที่จะขอจดทะเบียนจัดตั้งกับกรม โดยการแก้ไขกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ยังอาจแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยจะเพิ่มบทลงโทษกรณีการเป็นนอมินีให้มากขึ้น เพื่อให้เกรงกลัวการกระทำผิด
นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการดำเนินงานที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) เพื่อกำกับดูแลและป้องปราม รวมถึงสืบสวน สอบสวน หรือตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลและ นิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมเป็นนอมินีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแผนการดำเนินการนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วภายใต้การบูรณาการการทำงานร่วมกันของคณะอนุกรรมการฯ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะมีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีประสิทธิภาพและมีผลการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ที่สำคัญจะทำให้ประชาชนและนักลงทุนไทยเกิดความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจและไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้กระทำผิด อีกทั้ง เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยไม่เพิกเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งติดตามการดำเนินงานพร้อมหารือถึงความคืบหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะต่อไป