นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) จ.เชียงใหม่ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ เสนอ มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 9,019.01 ล้านบาท
โดยใช้แหล่งเงินทุนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) และ ธ.ก.ส. ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ดังนี้
1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68 กรอบวงเงินประมาณรวมทั้งสิ้น 8,362.76 ล้านบาท จำแนกออกเป็น
2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2567/68 กรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 656.25 ล้านบาท
3. เห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อกปีการผลิต 2567/68 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน 585 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในโอกาสแรกก่อน
หากไม่เพียงพอให้กรมการค้าภายในเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ ซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังรับทราบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาและส่งเสริมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567/68 และอนุมัติการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567/68 รวม 320 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. ให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ รายละไม่เกิน 230,000 บาท กำหนดชำระคืนไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันกู้ โดยคิดดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการในอัตรา MRR (ปัจจุบัน MRRเท่ากับร้อยละ 6.975 ต่อปี)
ทั้งนี้ เกษตรกรผู้กู้รับภาระในอัตรา MRR – อัตราขอชดเชยต่อปี โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. เพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน