นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง "โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวปี 2568" มุ่งเน้นให้ชาวนาเปลี่ยนมาใช้เมล็ดพันธุ์ดีในการเพาะปลูก เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิตข้าวให้มีคุณภาพ และได้ปริมาณที่มากขึ้น ชาวนาสามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยกรมการข้าวจะจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวในราคาถูก อาทิ ข้าวขาวหอมมะลิ 105 กข15 จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 5 บาท หรือ 125 บาทต่อกระสอบ ,ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง/ข้าวเจ้าไวต่อช่วงแสง3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือ 75บาทต่อกระสอบ และข้าวหอมไทย 4 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 100 บาทต่อกระสอบ
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และคุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ
1. เกษตรกรต้องเป็นสมาชิกของศูนย์ข้าวชุมชน ธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าว สมาชิกกลุ่มนาแปลงใหญ่ (ด้านข้าว) ชาวนาอาสา สมาชิกสหกรณ์การเกษตรและสถาบันเกษตรกรอื่น ๆ
2.เป็นครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนการปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ฤดูนาปี 2567/68 โดยเกษตรกรรายนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวจากโครงการของกรมการข้าวในปี 2568 ได้แก่ โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ และธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนฯ
3. เกษตรกรแต่ละรายจะได้รับการช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริงที่ขึ้นทะเบียนการปลูกข้าว ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ อัตราไร่ละไม่เกิน 15 กิโลกรัม รายละไม่เกิน 450 กิโลกรัม
4. ในกรณีสมาชิกกลุ่มเกษตรกรให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการมากกว่าเป้าหมายที่ได้รับแต่ละจังหวัด โดย ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จะพิจารณาตามลำดับ ดังนี้
4.1 เกษตรกรที่เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง (ไม่เคยเปลี่ยนพันธุ์ข้าว)
4.2 เกษตรกรที่ซื้อพันธุ์ข้าวจากเกษตรกรเพื่อนบ้านในชุมชน
4.3 เกษตรกรที่เคยใช้พันธุ์ข้าวคุณภาพดี จากกรมการข้าว หรือ แหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดีอื่นๆ
นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ปีนี้จะเห็นว่าผู้เข้าร่วมโครงการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่ใช่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว แต่ต้องการผลักดันเข้าสู่ศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อให้ศูนย์ข้าวชุมชนสามารถผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนาในชุมชนและของประเทศ เสริมสร้างความเข้มแข็งศูนย์ข้าวชุมชนในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี โดยกรมจะให้การสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่างๆ ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี เป็นหัว เชื้อในการผลิตข้าว สารชีวภัณฑ์ ปุ๋ยเคมีคุณภาพดีและปุ๋ยอินทรีย์ รวมถึงให้การสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร ในการลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ตามแผนระยะ 3 ปี (2567- 2569) เป็นการสนองนโยบาย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนศูนย์ข้าวชุมชน ให้เป็นศูนย์กลางในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ จากเดิมในปี 2567 ที่มีศูนย์ข้าวชุมชนอยู่จำนวน 4,985 ศูนย์ ในปี 2569 จะต้องเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็น 9,985 ศูนย์
ที่จะเพิ่มศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ดีให้กับประเทศจากเดิมในปี 2567 ผลิตได้ 200,000 ตันต่อปี ในปี 2569 จะสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้มากถึง 490,000 ตันต่อปี และจะมีข้าวคุณภาพดีออกสู่ตลาดจากเดิม 12 ล้านตัน จะสามารถผลิตข้าวออกสู่ตลาดได้มากถึง 16.64 ล้านตัน ครอบคลุมเกษตรกรได้มากกว่า 295,650 ครัวเรือน ภายในปี 2569 เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่การทำนาของประเทศไทย มีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด 64.6 ล้านไร่ 4.84 ล้านครัวเรือน (จำนวน 6,504 ตำบล แยกเป็นตำบลพื้นที่เกิน 1,000 ไร่ จำนวน 5,264 ตำบล พื้นที่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ จำนวน 1,240 ตำบล