เจาะมิชชั่น พัฒนา‘พริ้นซิเพิล’สู่องค์กรยั่งยืน

ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC บุตรชายคนเล็กของหมอพงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งขายหุ้นทั้งหมดออกไปเมื่อปี 2555

“ดร.สาธิต” ถือได้ว่าเป็นทายาทที่เข้ามาทำหน้าที่สืบทอดปณิธาน (purpose) ของคุณหมอพงษ์ศักดิ์ ที่ต้องการดูแลชุมชน ดูแลสังคม ดังนั้น แนวทางการขยายธุรกิจโรงพยาบาลของ “พริ้นซิเพิล” จึงมุ่งเน้นการสร้างโรงพยาบาลในต่างจังหวัดที่เป็นเมืองรอง และยังก่อตั้งบริษัท ใกล้บ้านใกล้ใจ คลินิกเวชกรรม เพื่อทำหน้าที่ลงทุนจัดตั้งคลินิกเวชกรรมตามชุมชนต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นในกรุงเทพฯ เป็นไพรอทโปรเจค ก่อนที่จะขยายออกต่างจังหวัดในปีนี้

“มันเป็นปณิธานของเรา ที่จะตั้งโรงพยาบาลในจังหวัดเมืองรอง เข้าถึงชุมชน เวลาเราไปจังหวัดไหนก็ตาม เราจะไปพร้อมกับเป้าหมายขององค์กร เราจะสร้างองค์กรที่มีจิตใจของผู้ให้ หมอที่กลับบ้านเกิด ก็รีครูซหมอ พยาบาล ให้ตรงกับ purpose ขององค์กร และยังให้สิทธิกับพวกเขาในการทำเพื่อชุมชนด้วย”

จากปณิธานการบริหารงานของ “พริ้นซิเพิล” ที่มีมาตั้งแต่เริ่มธุรกิจ และด้วยความมุ่งมั่นที่ทำให้ทุกอย่างขยายผลไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว “ดร.สาธิต” จึงมุ่งเน้นขับเคลื่อน ธุรกิจตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (The Sustainable Development Goals : SDGs) อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่า จะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และยังปรับโครงสร้างธุรกิจมุ่งสู่การสร้างสรรค์คุณค่าธุรกิจคู่สังคม (Creating shared value: CSV) แบบเต็มตัวตั้งแต่ปี 2563

การทำธุรกิจในรูปแบบของ CSV “ดร.สาธิต” เล่าว่า ต้องบาลานซ์ระหว่างธุรกิจกับสังคมให้ดี ดูว่าความเชี่ยวชาญของเราอยู่ตรงไหน สังคมต้องการอะไร โดยองค์กรต้องมีรายได้ด้วย การจะทำซีเอสอาร์อย่างเดียวโดยไม่มีรายได้ เราก็อยู่ไม่ไหว เพราะฉะนั้น พริ้นซิเพิลจึงวางโครงสร้างให้เป็น shared value ทำให้เรามีรายได้ ทำให้สังคมอยู่ได้

ที่ผ่านมา พริ้นซิเพิลฯ ได้ทำโครงการ Creating shared value เป็นไพรอทโปรเจคที่จังหวัดลำพูน มีแพทย์ พยาบาล ออกหน่วยไปเยี่ยมเยียนและช่วยรักษาคนในชุมชน ทำเข้าความรู้จักและดูแลอย่างใกล้ชิด สร้างสัมพันธ์ที่ดี และวันหนึ่งเมื่อได้รับการยอมรับ พริ้นซิเพิลฯ ก็จะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิกที่คนในชุมชนรักและเลือกใช้บริการ

“ดร.สาธิต” บอกว่า การเลือกดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ เพราะเป็นปณิธานเริ่มต้นตั้งแต่คุณหมอพงษ์ศักดิ์ และโดยการเปลี่ยนแปลงของสังคมปัจจุบัน การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) เป็นสิ่งที่สังคมต้องการ และองค์กรพึ่งปฏิบัติ ในระยะยาวการทำธุรกิจแบบนี้จะยั่งยืนมากกว่าแบบที่มุ่งเน้นสร้างรายได้และกำไรเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันเริ่มเห็นแล้วว่า คนรุ่นใหม่และนักลงทุนก็ให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างมาก หากองค์กรไหนไม่มีเรื่องของ Sustainable Development อาจเป็นองค์กรที่ถูกมองข้ามในอนาคต

สิ่งที่เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่ง คือ ปีที่แล้ว IFC สถาบันการเงินระหว่างประเทศ ของเวิลด์แบงก์ ได้ร่วมลงทุนกับพริ้นซิเพิลฯ ใช้งบ 540 ล้านบาท ร่วมลงทุนในโรงพยาบาลวิรัชศิลป์ จ.ชุมพร ซึ่งนี่คือแนวทางที่ “ดร.สาธิต” ตั้งเป้า สำหรับการขยายธุรกิจหรือลงทุนเพิ่มเติม จะเน้นการจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ โรงพยาบาล เชนคลินิก และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนองค์กรของพริ้นซิเพิลฯ

“โรงพยาบาล เรามีแผนขยายปีละ 3 โรง เชนคลีนิค ตอนนี้มี 8 แห่ง จะขยายให้ได้ 20 แห่งในปีนี้ และจะขยายให้ได้ 100 แห่งในอนาคต ส่วนศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ ชะลอตัวเพราะโควิดเมื่อปีที่แล้ว เพราะพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่นเดินทางไม่ได้ ปีนี้จะเปิด 1 ศูนย์ที่กรุงเทพฯ ประมาณ 60 เตียง และมีเป้าจะเปิดให้ได้ 6 ศูนย์ ด้วยงบลงทุนทั้งหมดราว 1,000 ล้านบาท”

“ดร.สาธิต” เล่าว่า การทำธุรกิจ โดยส่วนตัวจะทุ่มให้กับเฮลท์แคร์เต็มที่ ส่วนธุรกิจพร๊อพเพอร์ตี้ที่มีอยู่ จะค่อยๆ ลดสัดส่วนลง จากปัจจุบันเฮลท์แคร์มีสัดส่วน 85% และภายในปีนี้หรือปีหน้า ก็จะขายส่วนของพร๊อพเพอร์ตี้ออกไปทั้งหมด และมุ่งเป้าสู่การทำพาร์ทเนอร์ชิพเพื่อขยายเฮลท์แคร์เต็ม 100% โดยเฉพาะการทำพาร์ทเนอร์ชิพข้ามอุตสาหกรรม รวมถึงแผนลงทุนในศูนญ์การเรียนรู้เพื่อสร้างบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งเพื่อซัพพอร์ตธุรกิจของพริ้นซิเพิล และการวงการแพทย์ในอนาคต โดยในปีนี้ น่าจะเป็นที่สนุกสำหรับการจับมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ที่จะได้เห็นแน่นอน 1 ราย

สิ่งสำคัญ ของการทำธุรกิจ “ดร.สาธิต” กล่าวย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน หรือพาร์ทเนอร์ชิพที่เข้ามาร่วมมือกัน ต้องเป็นคนที่มีปณิธานและเป้าหมายเดียวกับพริ้นซิเพิลฯ คือ การดูแลสังคมและชุมชน

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 40 หน้า 24 ฉบับที่ 3,646 วันที่ 21 - 23 มกราคม พ.ศ. 2564