environment

พลาสติกกำลังคุกคามโลก 8 สถิติน่าวิตกที่ต้องรู้

    8 สถิติ ชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงของมลพิษพลาสติกที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลก ตั้งแต่ขยะพลาสติกมหาศาลที่เราสร้างขึ้นทุกปี จนถึงผลกระทบร้ายแรงต่อสัตว์ทะเลและสุขภาพมนุษย์ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตพลาสติก

"พลาสติก" กลายเป็นหนึ่งในภัยคุกคามสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุด เนื่องจากการผลิต การใช้งาน และการกำจัดที่ไม่ถูกวิธี ส่งผลให้มีขยะพลาสติกปนเปื้อนสู่ธรรมชาติจำนวนมหาศาล ทั้งในมหาสมุทร ป่าไม้ และแหล่งน้ำจืด กระทบอย่างรุนแรงต่อสัตว์ป่าและระบบนิเวศโดยรวม การประมาทเลินเล่อต่อปัญหาขยะพลาสติกนี้ น่าจะนำพาไปสู่หายนะครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้

8 สถิติชี้ชัดถึงความรุนแรงของปัญหา พร้อมเตือนให้ตระหนักและลงมือแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะสายเกินแก้

สถิติพลาสติกสุดช็อก ! 

โลกสร้างขยะพลาสติก 400 ล้านตันต่อปี

แม้ผลิตภัณฑ์พลาสติกถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1907 แต่ยอดการผลิตพุ่งทะยานอย่างมหาศาลเมื่อปี 1952 เป็นต้นมา การผลิตพลาสติกต่อปีในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบ 200 เท่า โลกเราสร้างขยะพลาสติกมากถึง 400 ล้านตันในแต่ละปี โดยสูญเสีย 60% ไปกับการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมและการฝังกลบ

สหรัฐฯ ผลิตพลาสติกมากสุดในโลก

สหรัฐฯ ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้นของโลก คือผู้สร้างมลพิษจากพลาสติกรายใหญ่ที่สุดด้วย ด้วยยอดการผลิตพลาสติกประมาณ 42 ล้านตันต่อปี หรือคนละ 130 กก. มากกว่าจีนเกือบเท่าตัว และสูงกว่าทั้งสหภาพยุโรพรวมกัน พลาสติกที่รั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมมีมากถึง 1.13-2.24 ล้านตัน

มหาสมุทรมีขยะพลาสติกมากกว่าปลา

ปัจจุบันน้ำหนักของขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลกมากกว่าน้ำหนักของปลา จากการคาดการณ์ว่าในปี 2050 จะมีขยะพลาสติกในทะเลมากกว่าปลา 3 เท่า ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อระบบนิเวศทางทะเล

มีรายงานว่าสัตว์ทะเลกว่า 100 ชนิด รวมนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีโอกาสตายจากการกลืนกินขยะพลาสติกผิดพลาด ขณะที่สัตว์ทะเลอีกกว่า 600 ชนิดติดพันพลาสติก ซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บและการตายเช่นกัน

มลพิษจากพลาสติกในมหาสมุทรจะเพิ่มขึ้นเป็น 29 ล้านเมตริกตันภายในปี 2583

ขยะพลาสติกและมลพิษประมาณ 11 ล้านเมตริกตัน (หรือแปดล้านตัน) ลงสู่มหาสมุทรทุกปี ส่งผลเสียต่อสัตว์ป่าทะเลและสุขภาพของระบบนิเวศ สัตว์ต่างๆ กินพลาสติกเข้าไป และเศษพลาสติกเพิ่มความเสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิต

มลพิษจากพลาสติกจะเพิ่มขึ้นเป็น 29 ล้านเมตริกตันต่อปีภายในเวลาไม่ถึง 20 ปีนับจากนี้ แต่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะลดมลพิษได้ถึง 80% หากลดการเติบโตของการผลิตพลาสติกบริสุทธิ์ ปรับปรุงระบบการเก็บขยะ และการลงทุนในพลาสติกที่รีไซเคิลได้

สัตว์ 100,000 ตัวเสียชีวิตจากอุปกรณ์ตกปลา

นอกเหนือจากเศษขยะที่ประกอบด้วยขวดพลาสติก ภาชนะ และแม้แต่หน้ากากอนามัยแล้ว อุปกรณ์ตกปลาอีกราว 5 เเสนถึงหนึ่งล้านตัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกปลาที่สูญหาย ทิ้งร้าง หรือทิ้งโดยชาวประมง ลงสู่มหาสมุทรในแต่ละปี ส่งผลให้สัตว์ทะเลอย่างน้อย 100,000 ตัวเสียชีวิตจากการเข้าไปติดกับเศษซากประมง ขาดอากาศหายใจหรือติดอยู่เนื่องจากการเดินทางเพื่อหาอาหาร และต้องอดอาหารจนตาย 

มนุษย์บริโภคพลาสติก 5 กรัมต่อสัปดาห์

มนุษย์ต้องบริโภคพลาสติก ตามอินโฟกราฟิกของรอยเตอร์ มนุษย์บริโภคพลาสติกประมาณ 5 กรัมต่อสัปดาห์ มีน้ำหนักประมาณฝาขวดและเทียบเท่ากับประมาณครึ่งชามข้าว เมื่อรวมกันตลอดทั้งปี ปริมาณพลาสติกที่รับประทานเข้าไปจะเท่ากับจานอาหารเย็นหนึ่งจาน 

พลาสติกจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสหรัฐฯ มากกว่าถ่านหินภายในปี 2573

พลาสติกเป็นมากกว่าขยะที่ถูกทิ้งและปล่อยให้เน่าเปื่อยในสิ่งแวดล้อม การผลิตยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและภาวะโลกร้อนอีกด้วย ในสหรัฐฯปัจจุบันการผลิตพลาสติกมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก 232 ล้านเมตริกตันทุกปีซึ่งเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าถ่านหิน 116.5 กิกะวัตต์ แต่การผลิตจะแซงหน้าโรงงานถ่านหินในประเทศภายในปี 2573 ตามรายงานปี 2564

โควิด-19 เพิ่มพลาสติกในมหาสมุทรถึง 25,900 ตัน

หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียว อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และขวดพลาสติกสำหรับฆ่าเชื้อ กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน มาตรการล็อคดาวน์และมาตรการด้านความปลอดภัยกระตุ้นให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับนำอาหารกลับบ้านมากขึ้น แต่การบริโภคพลาสติกที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้มีขยะพลาสติกประมาณ 8.4 ล้านตันที่เกิดจาก 193 ประเทศนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด

โดย 25,900 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับรถบัสสองชั้นมากกว่า 2,000 คัน ได้รั่วไหลลงสู่มหาสมุทร เพื่อการวิจัยล่าสุด

ที่มา 

earth.org