เปิดร่างแผน EEP 2024 หวังผลประหยัดพลังงาน 36% ลดคาร์บอน 106 ล้านตัน
เปิดแผนปฏิบัติการอนุรักษ์พลังงาน ตั้งเป้าลดการใช้ 36% ดัน 3 กลยุทธ์ ใน 14 มาตรการ 5 กลุ่ม เป้าหมาย ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจการค้า บ้านอยู่อาศัย เกษตรกรรม และภาคการขนส่ง ช่วยประเทศประหยัด 5.3 แสนล้านบาท ลดปล่อยคาร์บอน 106.49 ล้านตัน
แผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์พลังงาน ถือเป็นอีกหนึ่งเสาหลัก ในการจัดทำแผนพลังงานชาติ ซึ่งที่ผ่านมาทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว ในร่างแผนปฏิบัติการรายสาขา ด้านการอนุรักษ์พลังงาน (พ.ศ. 2567-2580) หรือ Energy Efficiency Plan 2024 (EEP 2024) โดยมีเป้าหมายที่จะลดการใช้พลังงานหรือประหยัดพลังงานให้ได้ 35,497 พันตันเทียบเท่านํ้ามันดิบ (ktoe) ภายในปี พ.ศ.2580 ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนประเทศ บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net-Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ.2065
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) ชี้ให้เห็นว่า ร่างแผน EEP 2024 มีเป้าหมายจะลดความเข้มการใช้พลังงาน Energy Intensity เป็น 36% ในปี พ.ศ.2580 หรือคิดเป็นพลังงานที่คาดว่าจะลดได้ 35,497 ktoe เป็นการดำเนินงานภาคการใช้ไฟฟ้าที่สัดส่วน 25 % หรือราว 8,761 ktoe จากมาตรการที่ก่อให้เกิดผลประหยัดด้านไฟฟ้า เช่น การเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม และภาคการใช้ความร้อนที่ 75% หรือราว 26,736 ktoe ในมาตรการต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ในปัจจุบัน (fuel switching) การเปลี่ยน boiler ซึ่งคิดเป็นมูลค่าที่ประหยัดได้ราว 532,455 ล้านบาท เกิดการสร้างงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 106.49 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในปี พ.ศ 2580
ในการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จะดำเนินงานภายใต้ 3 กลยุทธ์ ใน 14 มาตรการ 5 กลุ่ม เป้าหมาย ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจการค้า (อาคาร) บ้านอยู่อาศัย เกษตรกรรม และภาคการขนส่ง ซึ่งกลยุทธ์แรก เป็นเรื่องของภาคบังคับ จำนวน 3 มาตรการ ได้แก่ การบังคับใช้มาตรฐานการจัดการพลังงานในโรงงาน / อาคารควบคุม มีเป้าหมายประหยัดได้ 5,764 ktoe การบังคับเกณฑ์มาตรฐานด้านพลังงาน (Energy Code ) (โรงงาน, อาคาร, บ้านอยู่อาศัยเกษตร) มีเป้าหมายประหยัดได้ 937 ktoe และมาตรการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งทางถนน มีเป้าหมายประหยัดได้ 1,650 ktoe
กลยุทธ์ที่ 2 เป็นเรื่องของการส่งเสริม มี 8 มาตรการ ประกอบด้วย เกณฑ์มาตรฐานและการติดฉลากแสดงประสิทธิภาพอุปกรณ์ เป้าหมายประหยัดได้ 3,568 ktoe การสนับสนุนทางด้านการเงิน (Financial Incentive) เป้าหมาย 4,904ktoe ส่งเสริมนวัตกรรม (IOT, Smart Technology, Big Data, AI) เป้าหมาย 317 ktoe อนุรักษ์พลังงานภาคขนส่ง (EV, ระบบขนส่งทาง บก นา อากาศ ราง) เป้าหมาย 15,341 ktoe อนุรักษ์พลังงานภาคเกษตรกรรม (Smart Farming, Switch to Machinery) เป้าหมาย 660 ktoe
อนุรักษ์พลังงานบ้านอยู่อาศัย (บ้านอนุรักษ์พลังงาน , Smart Home) เป้าหมาย 1,754 ktoe การเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ในระบบพลังงานทดแทน (หม้อไอน้าชีวมวล, เตาเผาชีวมวล, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, SolarHeat) เป้าหมาย 322 ktoe และมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในการผลิตไฟฟ้า ระบบโครงข่ายไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้า (EEE) เป้าหมาย 280 ktoe อาทิ มาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในการผลิตไฟฟ้า ระบบโครงข่ายไฟฟ้า และมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในผู้ใช้ฟ้า (EERS)
ส่วนกลยุทธ์ที่ 3 เป็นเรื่องของการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงาน พัฒนาบุคลากรด้านอนุรักษ์พลังงาน และประชาสัมพันธ์สร้างปลูกจิตสานึกการอนุรักษ์พลังงาน
นายวัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หากพิจารณาการดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานตามสาขาเศรษฐกิจ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจการค้า ภาคบังคับ จะเป็นเรื่องของการบังคับใช้มาตรฐานการจัดการพลังงานในโรงงาน/อาคารควบคุม เป้าหมาย 5,764 ktoe การบังคับเกรณฑ์มาตรฐานด้านพลังงาน( Energy Code) โรงงาน อาคาร เป้าหมาย 867 ktoe
ขณะที่ภาคส่งเสริม เป็นเรื่องของเกณฑ์มาตรฐานและการติดฉลากแสดงประสิทธิภาพ อุปกรณ์ เป้าหมาย 3,568 ktoe การสนับสนุนทางด้านการเงิน อาทิ ให้เงินสนับสนุนบางส่วน (Subsidy, 80:20) เงินกู้ (Soft loan, ESCO Fund) สิทธิประโยชน์ทางภาษี (Tax incentive ประกันสินเชื่อ (Credit Guarantee) มีเป้าหมาย 4,856 ktoe
รวมถึงการส่งเสริมนวัตกรรม(IOT, Smart Factory, Smart Building, Big Data) เป้าหมาย 317 ktoe การเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ในระบบพลังงาน ทดแทน (หม้อไอนาชีวมวล, เตาเผาชีวมวล, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, Solar Heat) เป้าหมาย 322 ktoe และมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในการผลิตไฟฟ้า ระบบโครงข่ายไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้า (EEE) เป้าหมาย 280 ktoe เป็นต้น
สำหรับบ้านอยู่อาศัย ภาคบังคับเป็นการออกเกณฑ์บ้านประหยัดพลังงาน (ResidentialEnergy Code) ส่งเสริมมาตรฐานขั้นตํ่าในบ้านอยู่อาศัยสร้างใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในบ้านอยู่อาศัย เป้าหมาย 20 ktoe ส่วนสาขาเกษตร จะบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐานขั้นตํ่าด้านพลังงานใน ฟาร์มปศุสัตว์ มีเป้าหมาย 50 ktoe
ขณะที่สาขาขนส่งทางถนน จะมีมาตรการ เช่น การเก็บภาษีสรรพสามิต (Eco-Sticker) เป้าหมาย 1,499 ktoe และมาตรการฉลากแสดงประสิทธิภาพยางรถยนต์ เป้าหมาย 151 Ktoe และมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป้าหมาย 9,052 ktoe เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง