ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินการร่วมกับองค์กรภาครัฐ เอกชนกว่า 75 แห่ง เพื่ออนุรักษ์พลังงานภายในองค์กร รวมถึงกระตุ้นให้เกิดกระแสความความร่วมมือด้านการอนุรักษ์พลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากราคาพลังงาน
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้เร่งผลักดันนโยบายการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ ซึ่งถือเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานสูงให้เกิดการใช้พลังงานอย่างประสิทธิภาพ โดยการดำเนินการร่วมกันดังกล่าวนี้ จะทำให้เกิดการสานต่อและสร้างเครือข่ายด้านอนุรักษ์พลังงาน สร้างความร่วมมือการให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับมาตรการที่มุ่งเน้น คือ การดำเนินการภายใต้มาตรการ 5 ป. ได้แก่ ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน ปลูก ซึ่งจากมาตรการที่หน่วยงานแต่ละแห่งจะดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์พลังงานนั้น คาดว่าในช่วง 6 เดือน (ก.ย. 67 - ก.พ. 68) จะส่งผลในภาพรวมเกิดการลดใช้ไฟฟ้าได้กว่า 500 ล้านหน่วย
ลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าพลังงานของประเทศได้สูงถึง 2,500 ล้านบาท เทียบเท่าแอลเอ็นจี 68,500 ตัน บรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 240 พันตันคาร์บอน
อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ให้ได้ในปี ค.ศ. 2050
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า พพ.จะให้การสนับสนุนด้านเทคนิค การฝึกอบรมให้ความรู้ การให้คำปรึกษาและแนะนำ รวมถึงเผยแพร่ผลสำเร็จและความรู้ด้านอนุรักษ์พลังงานสู่สาธารณชน กระตุ้นทุกภาคส่วนให้เกิดความตระหนักและเกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากนี้ พพ.จะมีการติดตามผลการประหยัดพลังงาน รายงานผ่านระบบ online และจัดตั้ง energy clinic ในการให้คำปรึกษาทั้งด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ตลอดจนให้คำแนะนำแหล่งเงินลงทุน โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ไว้รองรับกิจกรรมนี้ด้วยแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง